รู้หรือไม่? 🦷 แปรงสีฟันที่ใช้กันเป็นประจำนั้น
อาจเป็นที่รวมตัวของเชื้อแบคทีเรียครับ 🦠
ฉะนั้นการดูแลแปรงสีฟันจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ไม่ต้องเป็นโรคในช่องปาก และในช่องปากของคนเรานั้นมักจะสะสมแบคทีเรียไว้มากที่สุด 😮 🦠 จึงทำให้แบคทีเรียเหล่านั้น ถูกสะสมอยู่ในแปรงสีฟัน จนกลายเป็นเชื้อโรคนั่นเองครับ
.
💁♂️ วันนี้แอดมินจะมาแนะนำวิธีการดูแลแปรงสีฟันอย่างไรให้ปลอดเชื้อโรค ตามมาชมกันเลยดีกว่าครับ
.
🦷 เปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน
เพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียครับ และหลีกเลี่ยงการใช้แปรงสีฟันจนขนแปรงบานเพราะประสิทธิภาพในการขจัดเอาเศษอาหารออกจะลดลง และขนแปรงที่แข็งส่งผลให้ไปทำร้ายเหงือก ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายครับ
.
🦷 หลีกเลี่ยงการใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น
เพราะการใช้แปรงร่วมกันนั้นโอกาสสัมผัสกับน้ำลาย เลือด ของอีกคนได้ง่ายมากๆเลยครับ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยตรงนั่นเองครับ
.
🦷 หากใครมีปัญหาเรื่องสุขภาพในช่องปากที่ยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ
แอดมินแนะนำว่าการไปขอคำปรึกษาในการใช้แปรงและแปรงฟันให้ถูกวิธีจากทันตแพทย์นั้น จะได้รับแนวทางการปฏิบัติและผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพในช่องปากแน่นอนครับ
.
🦷 หลีกเลี่ยงการเก็บแปรงสีฟันในกล่องปิดหรือกระเป๋าพลาสติก
เพราะแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดีมากในที่ชื้นๆครับ ควรเก็บแปรงสีฟันในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียครับ
.
🦷 ระหว่างที่แปรงสีฟันยังไม่หมดอายุ แนะนำให้หมั่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคสัปดาห์ละ 1 ครั้งซึ่งทำให้ขนแปรงอ่อนนุ่มอีกด้วยครับ โดยอาจใช้วิธีต่อไปนี้ครับ
ฆ่าเชื้อโรคด้วยการลวกแปรงสีฟันในน้ำร้อน
บีบน้ำมะนาวลงบนแปรง ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก
แช่แปรงสีฟันในน้ำสบู่แล้วล้างออก
❤ อย่างไรแล้วแปรงสีฟันจัดว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่สำคัญและใช้กันเป็นประจำทุกวัน แอดมินแนะนำว่าควรต้องดูแลรักษาให้แปรงสีฟันสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคอยู่สม่ำเสมอนะครับ และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์สุขภาพในช่องปากดีไม่ให้มีปัญหามากวนใจครับ
ที่มา : sanook
