ซื้อบ้านหลังแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร? รวม 15 ข้อที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

สำหรับคำถามว่าการซื้อบ้านหลังแรกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? ซึ่งการซื้อบ้านหลังแรกเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของหลายๆ คนที่ใฝ่ฝันจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่การกู้ซื้อบ้านนั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เพื่อให้การกู้ซื้อบ้านผ่านฉลุยและไม่เป็นภาระทางการเงินในระยะยาว วันนี้ Frasers Property จะพามาเจาะลึก 15 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้านหลังแรก

รวม 15 ข้อเตรียมตัวซื้อบ้านหลังแรก รู้ไว้ไม่พลาด!

1. ปลดหนี้ ชำระหนี้ เคลียร์หนี้ให้หมด

ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน สิ่งสำคัญ คือ การมีฐานะทางการเงินที่ดี ซึ่งการไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ จะช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้อย่างสม่ำเสมอ และมีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

ตัวช่วยในการเคลียร์หนี้

  • ควรจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อวิเคราะห์ว่ามีหนี้สินใดบ้าง และต้องชำระหนี้ก้อนไหนก่อน เพื่อจะให้เสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด
  • กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะชำระหนี้ให้หมดภายในระยะเวลาเท่าไหร่?
  • หาช่องทางเพิ่มรายได้ เช่น ทำงานพิเศษ หรือขายของออนไลน์
  • ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่สามารถลดได้
  • หากมีหนี้หลายก้อน อาจพิจารณาการรีไฟแนนซ์ เพื่อรวมหนี้ทั้งหมดเป็นก้อนเดียว และลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อจะได้เคลียร์หนี้ให้หมดเร็วยิ่งขึ้น

2. ปฏิบัติการออมเงิน

ออมเงินเก็บซื้อบ้านหลังแรก

การออมเงินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องใช้เป็นเงินดาวน์ในการซื้อบ้านแล้ว ยังใช้เป็นเงินสำรองเผื่อค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายในการย้ายเข้าบ้านใหม่ เป็นต้น

ตัวช่วยในการออมเงิน

  • กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการออมเงินเท่าไหร่ ภายในระยะเวลาเท่าไหร่
  • แบ่งเงินออมออกมาก่อนที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือน
  • เปิดบัญชีออมทรัพย์ โดยเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เพื่อให้เงินของคุณงอกเงย
  • หากมีเงินออมจำนวนมาก อาจพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน

3. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากทำเลที่ตั้ง

ทำเลที่ตั้งมีผลต่อคุณภาพชีวิตและมูลค่าของบ้านอย่างมาก ดังนั้นการเลือกบ้านทำเลดีตอบโจทย์การใช้ชีวิต ก็จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย และมีโอกาสที่จะขายบ้านได้ในราคาที่ดีในอนาคต โดยมีปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่

  • มีความสะดวกในการเดินทาง เช่น ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานีขนส่งสาธารณะ
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สวนสาธารณะ โรงพยาบาล โรงเรียน และศูนย์การค้า
  • สภาพแวดล้อม ต้องมีความปลอดภัย ไม่มีมลพิษทางเสียง และอากาศ
  • ต้องมีศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต เช่น มีรถไฟฟ้าใกล้ ๆ โครงการ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีม่วง, รถไฟฟ้าสายสีชมพู,รถไฟฟ้าmrtสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้า BTS  หรือโครงการบ้านติดถนนสายหลัก และทางด่วน

4. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากลักษณะบ้านที่ตัวเองต้องการ

การเลือกบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะบ้านจะเป็นที่อยู่อาศัยในระยะยาว ซึ่งการเลือกบ้านที่ถูกใจจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขในการใช้ชีวิต โดยมีปัจจัยที่ควรพิจารณาในการซื้อบ้าน อาทิเช่น

  • เลือกขนาดบ้านที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวและไลฟ์สไตล์
  • พิจารณาจำนวนห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก และห้องอื่น ๆ ที่ต้องการ
  • เลือกสไตล์ที่ชอบ เช่น บ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านสไตล์ไทยคลาสสิก หรือบ้านสไตล์วินเทจ
  • เลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านครบครัน เช่น ครัวบิวท์อิน ห้องน้ำในตัว ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี

ดูโครงการ บ้านเดี่ยว ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้

5. เช็ครายได้เงินเดือนของตัวเอง

การกำหนดงบประมาณในการซื้อบ้านเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบ้านที่เหมาะสมกับกำลังซื้อ โดยวิธีการคำนวณ ดังนี้

  • ค่าผ่อนบ้าน โดยทั่วไปแล้วควรมีค่าผ่อนบ้านไม่เกิน 30-40% ของรายได้สุทธิ
  • นอกจากค่าผ่อนบ้าน ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้าน
  • ควรมีเงินสำรองไว้เผื่อใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

6. จัดระเบียบรายการเดินบัญชี

จัดระเบียบรายการเดินบัญชีเพื่อซื้อบ้านหลังแรก

การจัดระเบียบรายรับรายจ่าย จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมทางการเงินของตัวเองได้ชัดเจน และสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้คุณทราบว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ แถมยังเป็นเอกสารข้อมูลสำคัญในการขอรับสินเชื่อ และช่วยให้คุณมีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่ออีกด้วย

7. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากโครงการที่เชื่อถือได้

การเลือกโครงการบ้านจากผู้พัฒนาที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านที่คุณซื้อจะมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่

  • ประสบการณ์ของผู้พัฒนาโครงการ โดยควรตรวจสอบประวัติของผู้พัฒนาว่ามีโครงการที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง มีความน่าเชื่อถือหรือไม่
  • ตรวจสอบว่าผู้พัฒนาที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินมากพอที่จะสามารถส่งมอบโครงการได้ตรงตามกำหนดเวลาหรือไม่
  • ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันโครงการว่าครอบคลุมอะไรบ้าง
  • สอบถามความคิดเห็นจากลูกค้าที่เคยซื้อโครงการของผู้พัฒนารายนั้น

8. การเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อบ้าน

การเลือกธนาคารที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดี และเงื่อนไขที่เอื้ออำนวย โดยควรพิจารณาที่

  1. อัตราดอกเบี้ย โดยการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร
  2. เลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมกับกำลังทรัพย์
  3. ตรวจสอบค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการยื่นขอสินเชื่อ ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน
  4. ตรวจสอบโปรโมชั่นพิเศษที่ธนาคารต่าง ๆ จัดให้ เพื่อเลือกธนาคารที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด
  5. ความสะดวกในการติดต่อ โดยควรเลือกธนาคารที่มีสาขาใกล้บ้าน หรือมีบริการธนาคารออนไลน์ที่สะดวก เช่น

9. ตรวจสอบความพร้อมในการซื้อบ้าน

สิ่งสำคัญเลยสำหรับก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน คือ ควรตรวจสอบความพร้อมของตัวเองในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านจิตใจ และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ครบทุกรอบด้าน เพราะการซื้อบ้านถือเป็นภาระชำระหนี้ก้อนโตในระยะยาว จึงต้องเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุดให้กับตนเองและครอบครัว

10. สัญญาจะซื้อจะขาย เอกสารสำคัญที่ต้องมีในการซื้อบ้าน

สัญญาจะซื้อจะขายเป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นเหมือนสัญญาเบื้องต้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ก่อนที่จะทำการโอนกรรมสิทธิ์ในภายหลัง จึงจำเป็นต้องมีเอกสารสำคัญครบถ้วน และต้องตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกครั้ง ก่อนลงลายมือชื่อ อาทิเช่น 

  • ข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขาย
  • รายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อขาย
  • ราคาซื้อขาย
  • เงินมัดจำ
  • ระยะเวลาในการโอนกรรมสิทธิ์
  • เงื่อนไขอื่น ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน

11. วงเงินสินเชื่อ ที่ธนาคารใช้ในการปล่อยสินเชื่อ

วงเงินสินเชื่อที่ธนาคารจะปล่อยให้คุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ราคาประเมินทรัพย์สิน โดยธนาคารจะส่งผู้ประเมินมาประเมินราคาทรัพย์สินที่คุณจะซื้อ และจะปล่อยสินเชื่อให้ไม่เกินร้อยละของราคาประเมินที่กำหนด
  • รายได้เงินเดือนของผู้กู้ ซึ่งธนาคารจะทำการพิจารณาจากรายได้ต่อเดือนของคุณว่าสามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้หรือไม่ และหากคุณมีหนี้สินอื่นๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินส่วนบุคคล วงเงินสินเชื่อที่จะได้รับอนุมัติก็อาจจะลดลง
  • ประวัติการชำระหนี้ที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า

12. การขอวงเงินสินเชื่อบ้านให้ได้เต็ม 100%

การขอวงเงินสินเชื่อบ้านให้ได้เต็ม 100% นั้นทำได้ แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการพิจารณาของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น

  • ประเภทของทรัพย์สิน สำหรับบ้านมือใหม่มักจะได้รับวงเงินสินเชื่อที่สูงกว่าบ้านมือสอง
  • บ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มักจะได้รับราคาประเมินที่สูงขึ้น
  • เอกสารประกอบการขอสินเชื่อต้องครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน
  • ประวัติการชำระหนี้ที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ
  • รายได้ที่มั่นคงและภาระหนี้สินที่น้อย จะช่วยให้คุณได้รับอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

13. การขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารมีภาระดอกเบี้ย

ขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหลังแรก

การขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารนั้นจะมาพร้อมกับภาระดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งเป็นค่าตอบแทนที่ธนาคารเรียกเก็บจากการให้คุณกู้ยืมเงินมาซื้อบ้าน โดยดอกเบี้ยนี้จะถูกคิดจากยอดเงินต้นที่ค้างชำระ และจะต้องชำระคืนให้กับธนาคารไปพร้อมกับเงินต้น ซึ่งจะมีดอกเบี้ยอยู่ 2 ประเภท

  • ดอกเบี้ยคงที่ โดยจะอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดระยะเวลาการกู้
  • ดอกเบี้ยลอยตัว อัตราดอกเบี้ยจะปรับเปลี่ยนตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารกลาง

ยิ่งหากมีระยะเวลาการกู้ยาวนาน อัตราดอกเบี้ยก็อาจจะสูงขึ้น แต่หากคุณเป็นผู้ที่มีประวัติเครดิตที่ดี ก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่านั่นเอง

14. ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านที่ต้องเตรียม

นอกจากค่าบ้านและค่าดอกเบี้ยแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมอีกมากมาย เช่น

  1. ค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์
  2. ค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระเมื่อจดจำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน
  3. ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาบ้าน
  4. ค่าอากรแสตมป์ ที่ต้องชำระจากการทำสัญญาซื้อขาย
  5. ค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง หากต้องการตกแต่งบ้านเพิ่มเติม

15. เอกสารในการขอสินเชื่อที่ต้องเตรียมให้พร้อม

เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอสินเชื่อบ้านแต่ละธนาคารอาจแตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีเอกสารดังนี้

  1. เอกสารส่วนบุคคล ได้แก่ บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส (ถ้ามี), สลิปเงินเดือน, ใบรับรองเงินเดือน และสเตทเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน
  2. เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น สัญญาจะซื้อจะขาย, โฉนดที่ดิน และแบบแปลนบ้าน
  3. เอกสารอื่นๆ ที่เอกสารแสดงฐานะทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองเงินฝาก และหุ้นส่วนในบริษัท เป็นต้น

บทสรุป การเตรียมตัวซื้อบ้านหลังแรก

การซื้อบ้านเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดในชีวิต ดังนั้นก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เพื่อให้การกู้ผ่านฉลุยและไม่เป็นภาระทางการเงินในระยะยาว หากคุณเตรียมตัวให้พร้อมตามที่ 15 ข้อในการเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ Frasers Property Home กล่าวมาข้างต้น ก็สามารถช่วยให้คุณกู้ซื้อบ้านหลักแรกได้ในอัตราที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน