บ้านกับคอนโดเป็นทางเลือกที่อยู่อาศัยยอดนิยม แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยสักหลังจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของเราที่สุด ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างระหว่างบ้านกับคอนโด เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจให้กับคุณกัน
หาคำตอบบ้านกับคอนโดอันไหนดีกว่ากัน ต่างกันยังไงบ้าง
การเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งหากจะถามว่าบ้านกับคอนโด อันไหนดีกว่ากัน ก็ต้องบอกว่าทั้งบ้านและคอนโดล้วนก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าบ้านกับคอนโดต่างกันยังไง แบบไหนที่เหมาะกับคุณกันดีกว่า
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างบ้านกับคอนโด
คุณสมบัติ | บ้าน | คอนโดมิเนียม |
ความเป็นส่วนตัว | มีความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่เป็นของตัวเอง | มีความเป็นส่วนตัวต่ำกว่า เนื่องจากมีผู้อาศัยจำนวนมากอยู่ร่วมกัน |
พื้นที่ใช้สอย | กว้างขวาง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ | จำกัดตามขนาดห้อง |
ค่าใช้จ่าย | ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า เนื่องจากมีพื้นที่กว้าง | ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนกลางน้อยกว่าบ้าน |
ความปลอดภัย | ขึ้นอยู่กับหมู่บ้าน แต่โดยรวมอาจมีความปลอดภัยน้อยกว่าคอนโด | มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง |
ทำเลที่ตั้ง | ทำเลที่ตั้งเป็นส่วนตัว | มักอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก |
การลงทุน | มูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว | มูลค่าเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับทำเลและโครงการ |
สรุปได้ว่าบ้านมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถปรับเปลี่ยนบ้านได้ตามใจชอบ และมีความสงบเงียบในการอยู่อาศัย ส่วนคอนโดมีความสะดวกสบายในการเดินทาง มีความปลอดภัยมากว่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบพร้อมใช้งานได้ง่าย
หากคุณกำลังมองหาบ้านหรือคอนโดที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ Frasers Property Home มีโครงการที่หลากหลายให้คุณเลือก ทั้งบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่, ทาวน์โฮมทันสมัย และคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมด้วยทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้คุณได้สัมผัสชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
รวมข้อควรรู้เพื่อพิจารณาก่อนเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม
การตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการพิจารณา เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว ฉะนั้นก่อนตัดสินใจ จึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
1. พื้นที่ใช้สอยและจำนวนสมาชิกในครอบครัว
การเลือกบ้านหรือคอนโดมิเนียม ควรคำนึงถึงขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวและกิจกรรมที่ทำภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ เช่นโครงการ (เดอะแกรนด์ แจ้งวัฒนะ-เมืองทองฯ) ซึ่งการมีพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอจะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขและสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งยังช่วยให้คุณมีพื้นที่จัดเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบอีกด้วย
หากคุณเป็นครอบครัวใหญ่ หรือต้องการพื้นที่เพื่อขยับขยาย สำหรับการมีลูกน้อย การเลือกซื้อบ้านก็จะตอบโจทย์คุณได้มากกว่าคอนโดนั่นเอง
2. สิ่งอำนวยความสะดวกสบายของที่พักอาศัย
สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกภายในตัวอาคาร เช่น เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องทำน้ำอุ่น หรือสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม หรือสนามเด็กเล่น ซึ่งการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับคุณ
3.วัตถุประสงค์ของการซื้อ
การพิจารณาวัตถุประสงค์ในการซื้อจะช่วยให้คุณเลือกบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด หากคุณต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง คุณอาจเน้นทำเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่ทำงานหรือโรงเรียน หรือหากคุณต้องการซื้อเพื่อลงทุน คุณอาจพิจารณาทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีผู้เช่าจำนวนมาก เป็นต้น
4. สัดส่วนในการใช้งานความเป็นส่วนตัว (Privacy)
อีกหนึ่งสิ่งที่คำนึงในการซื้อบ้านหรือคอนโดก็คือ หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ก็สามารถเลือกบ้านเดี่ยวหรือคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนยูนิตน้อยไว้พิจารณา แต่หากคุณต้องการความสะดวกสบายและชอบการใช้ชีวิตแบบเข้าสังคม ก็สามารถพิจารณาเป็นคอนโดมิเนียมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกนั่นเอง
5. การเดินทาง
ทำเลที่ตั้งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและมูลค่าของทรัพย์สิน การเลือกทำเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวก ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือเส้นทางหลัก จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น
6. ระบบรักษาความปลอดภัย
ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณ ควรเลือกโครงการบ้านหรือคอนโด ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น กล้องวงจรปิด รปภ. หรือประตูคีย์การ์ด เป็นต้น
7. ราคาบ้าน VS คอนโด และ ค่าส่วนกลาง
การตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยหลักที่หลายคนให้ความสำคัญก็คือราคาและค่าใช้จ่ายที่ตามมา
- ราคาบ้าน โดยทั่วไปมักจะมีราคาสูงกว่าคอนโด เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า มีที่ดินเป็นของตนเอง และมักจะมีความเป็นส่วนตัวสูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับค่าดูแลรักษาที่สูงขึ้น เช่น ค่าบำรุงรักษาสวน ค่าซ่อมแซมบ้าน ซึ่งอาจเป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ราคาคอนโด มักจะมีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า และมักจะตั้งอยู่ในทำเลที่เข้าถึงง่าย เช่น ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ทำให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางและใช้ชีวิตประจำวัน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่น้อยกว่า
- ค่าส่วนกลาง เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รปภ. การดูแลรักษาส่วนกลาง ซึ่งค่าส่วนกลางนี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของห้องชุด สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ และทำเลที่ตั้ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคอนโดมักจะมีค่าส่วนกลางที่สูงกว่าบ้าน เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า
8. ทำเลที่ตั้งของบ้านหรือคอนโด
ทำเลที่ตั้งมีผลต่อคุณภาพชีวิตและมูลค่าทรัพย์สินในระยะยาว จึงควรเลือกทำเลบ้านที่ใกล้สถานที่สำคัญ เช่น ที่ทำงาน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า หรือสถานีขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ควรพิจารณาสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เช่น ความเงียบสงบ มลภาวะ หรือศักยภาพในการพัฒนาของพื้นที่ร่วมด้วย ทำเลที่ตั้งของบ้านและคอนโดแตกต่างกันอย่างไร?
-
คอนโด มักตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้แหล่งธุรกิจ สถานศึกษา และระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้สะดวกในการเดินทางและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างเช่น คอนโดโคลส รัชดา 7 จากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้
-
บ้าน อาจตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ชานเมือง หรือพื้นที่รอบนอกเมือง แต่สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวของ Frasers Property จะยังคงความเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาล
สามารถเลือกดูโครงการบ้านที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ https://home.frasersproperty.co.th/house
9. งบประมาณในการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด
โดยทั่วไปบ้านจะมีราคาสูงกว่าคอนโด เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า มีที่ดินเป็นของตนเอง และมักจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่า เช่น ค่าภาษีที่ดิน ค่าซ่อมแซม ดังนั้นถ้าคุณอยากซื้อบ้านก็จำเป็นที่จะต้องตั้งงบประมาณในการทำสินเชื่อที่สูงกว่าคอนโดนั่นเอง
10. กฎระเบียบในการอยู่อาศัย
บ้าน จะมีความยืดหยุ่นในการปรับปรุงหรือดัดแปลงบ้านได้มากกว่า แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น เช่น กฎหมายอาคาร และกฎหมายสิ่งแวดล้อมร่วมด้วย ในขณะที่คอนโดจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่า เช่น กฎระเบียบของนิติบุคคลที่กำหนดเรื่องเสียงดัง การเลี้ยงสัตว์ การจอดรถ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของโครงการ
11. ระบบการประกันภัย
บ้าน สามารถทำประกันภัยได้หลากหลายประเภท เช่น ประกันอัคคีภัย ประกันภัยภัยธรรมชาติ ประกันภัยทรัพย์สิน โดยความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่เลือก ในขณะที่คอนโด มักจะมีประกันภัยส่วนกลางที่ครอบคลุมความเสียหายของตัวอาคารและส่วนกลาง แต่ทั้งนี้ผู้ซื้อสามารถทำประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวได้
12. โฉนดที่ดิน
บ้าน จะมีโฉนดที่ดินเป็นของตนเอง แสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ส่วนคอนโดจะมีโฉนดห้องชุด แสดงกรรมสิทธิ์ในห้องชุดเท่านั้น
13. ฟังก์ชั่นการใช้งาน
บ้าน มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง สามารถปรับเปลี่ยนและตกแต่งได้ตามต้องการ และมีความเป็นส่วนตัวสูง ในขณะที่คอนโดจะมีพื้นที่ใช้สอยที่จำกัดกว่า แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ และฟิตเนส พร้อมทำเลที่ตั้งที่มักจะอยู่ใจกลางเมือง เดินทางได้สะดวก
14. เลี้ยงสัตว์
คอนโด จะมีข้อจำกัดในการเลี้ยงสัตว์ โดยปกตินิติบุคคลจะกำหนดขนาดและชนิดของสัตว์เลี้ยงที่อนุญาตให้เลี้ยง เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องเสียงรบกวนและสุขอนามัย ในขณะที่บ้านจะมีความยืดหยุ่นในการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น สามารถเลี้ยงสัตว์ได้หลากหลายชนิดและขนาด เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางและเป็นส่วนตัว
15. ความคุ้มค่าในการลงทุน
มูลค่าทรัพย์สินของบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนา แต่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาด้วย แต่คอนโดอาจมีราคาปรับตัวขึ้นหรือลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยอื่น ๆ แต่มีความสะดวกในการขายหรือปล่อยเช่ามากกว่าบ้าน
16. การต่อเติม
บ้านมีอิสระในการต่อเติมหรือปรับปรุงบ้านได้ตามต้องการ แต่ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในขณะที่คอนโด มีข้อจำกัดในการต่อเติม เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของนิติบุคคล อีกทั้งการต่อเติมยังอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารและผู้พักอาศัยรายอื่น ๆ ด้วยนั่นเอง
บ้าน VS คอนโด ใครเหมาะกับอะไร? ไลฟ์สไตล์แบบไหน?
การตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าไลฟ์สไตล์แบบไหนเหมาะกับบ้าน หรือคอนโดมากกว่ากัน
ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
-
คอนโด: จะเหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย
-
บ้าน: อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองมากนัก เนื่องจากอาจต้องใช้เวลาในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
ไลฟ์สไตล์ของครอบครัว
-
บ้าน: เหมาะสำหรับครอบครัวมากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่า สามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่ได้ตามความต้องการ และมีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น
-
คอนโด: อาจเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก หรือครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่การใช้ชีวิตในคอนโดอาจถูกจำกัดด้วยพื้นที่สำหรับให้เด็ก ๆ เล่น
ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
-
บ้าน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่เป็นของตัวเอง สามารถตกแต่งและปรับปรุงบ้านได้ตามใจชอบ
-
คอนโด: อาจมีเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านได้บ้าง เนื่องจากอาศัยอยู่ในอาคารเดียวกัน แต่คอนโดบางแห่งอาจมีห้องพักอาศัยที่อยู่ห่างไกลจากส่วนกลาง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของบ้าน
ข้อดีของบ้าน
- มีความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่เป็นของตนเอง สามารถปรับปรุงและตกแต่งได้ตามใจชอบ
- มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางสำหรับกิจกรรมต่างๆ เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
- มีความยืดหยุ่นในการปรับปรุง สามารถต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนบ้านได้ตามต้องการ
- ราคาบ้านมักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพ
ข้อเสียของบ้าน
- ค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าซื้อ ค่าก่อสร้าง และค่าบำรุงรักษา
- ต้องดูแลสวน ทำความสะอาด และซ่อมแซมบ้านเอง
- ใช้เวลาในการเดินทางเข้าใจกลางเมืองสูงกว่าคอนโด
- เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูง รวมถึงค่าภาษีที่ดิน ค่าน้ำ ค่าไฟ
ข้อดี-ข้อเสียของคอนโดมิเนียม
ข้อดีของคอนโดมิเนียม
- ราคาเข้าถึงได้ง่าย มีเรทราคาที่หลากหลายให้เลือก
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ร้านค้า
- ทำเลที่ตั้งดี มักตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งชุมชน
- มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
- ไม่ต้องเสียเวลาในการดูแลรักษา มีนิติบุคคลคอยดูแลส่วนกลาง
ข้อเสียของคอนโดมิเนียม
- พื้นที่ใช้สอยจำกัด ขนาดห้องค่อนข้างเล็ก
- ไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าบ้าน อาจมีเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน
- ต้องเสียค่าส่วนกลางทุกเดือน
- กฎระเบียบค่อนข้างเยอะและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของนิติบุคคล
- มูลค่าอาจผันผวน ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยอื่น ๆ
สรุป
การเลือกซื้อบ้านเดี่ยวหรือคอนโดมิเนียมตอบโจทย์ความต้องการชีวิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนั้นจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังข้างต้น เช่น งบประมาณ ทำเลที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก และขนาดครอบครัวจะดีที่สุด เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับคุณและครอบครัวมากที่สุดนั่นเอง