เพื่อนบ้านเสียงดังยามวิกาล แก้ยังไงดี? มีกฎหมายลงโทษอะไรบ้าง?

ปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังรบกวนในยามวิกาลเป็นเรื่องที่สร้างความรำคาญใจและกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของหลายคน การทำความเข้าใจต้นตอของปัญหาและวิธีจัดการอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและไม่บานปลาย

บทความนี้ Frasers Property จะพาคุณไปสำรวจประเภทของเสียงรบกวนที่พบบ่อย พร้อมทั้งแนะนำแนวทางแก้ไขตั้งแต่การพูดคุยไปจนถึงการใช้กฎหมาย เพื่อให้คุณได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง

ปัญหาเสียงดังรบกวนจากเพื่อนบ้านยามวิกาล มีแบบไหนบ้าง

ปัญหาเสียงดังรบกวนจากเพื่อนบ้านยามวิกาล

ปัญหาเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านมีหลายรูปแบบที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน อาทิ

  • เสียงจากงานสังสรรค์และกิจกรรมบันเทิง 

ปัญหาที่พบได้บ่อยครั้ง คือ เสียงเพลงที่ดังเกินไปจากการจัดงานปาร์ตี้ หรือเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะที่ดังในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งก่อให้เกิดการรบกวนการพักผ่อนของบ้านข้างเคียงได้

  • เสียงจากการปรับปรุงบ้านและงานช่าง 

เสียงจากการซ่อมแซมหรือก่อสร้างบ้าน ทั้งเสียงเจาะ เสียงตอก หรือเสียงเครื่องมือช่างที่ดังต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความรำคาญใจให้กับคุณและบ้านข้างเคียงได้มากเช่นกัน

  • เสียงจากสัตว์เลี้ยง

ไม่ว่าจะเป็น เสียงเห่าของสุนัขหรือเสียงร้องของสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม มักจะส่งเสียงดังรบกวนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนหรือเช้าตรู่

  • เสียงจากเครื่องใช้ไฟฟ้า

เสียงหึ่งๆ จากเครื่องปรับอากาศ หรือเสียงดังจากปั๊มน้ำ รวมถึงเสียงเครื่องซักผ้าและเครื่องดูดฝุ่นที่ดังจนเกินไปในบ้านข้างเคียง ก็อาจส่งเสียงดังจนก่อความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านได้เช่นกัน

  • เสียงจากกิจกรรมของเด็กๆ 

เสียงเล่นของเด็กที่ดังจนเกินไป หรือเสียงวิ่ง เสียงร้องไห้ ที่ดังรบกวนตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในบ้านที่มีพื้นที่ติดกัน

เสียงดังขนาดไหน? ถึงผิดกฎหมาย 

ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เสียงจะถือว่าเป็นเหตุรำคาญที่ผิดกฎหมายเมื่อมีค่าความดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสามารถวัดค่าความดังได้ดังนี้

  • ไม่เกิน 70 เดซิเบล (A) ในช่วงเวลากลางวัน (07.00 - 22.00 น.)
  • ไม่เกิน 50 เดซิเบล (A) ในช่วงเวลากลางคืน (22.00 - 07.00 น.)

หากเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานนี้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้ระงับเหตุรำคาญได้ทันที

7 วิธีแก้ปัญหาข้างบ้านเสียงดังยามวิกาล

การแก้ปัญหาข้างบ้านเสียงดังยามวิกาล

1. พูดคุยกันด้วยเหตุผลและใจเย็น

เมื่อเกิดปัญหาเสียงดัง สิ่งแรกที่ควรทำ คือ การพูดคุยกับเพื่อนบ้านอย่างสุภาพและตรงไปตรงมา โดยเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมและบรรยากาศเป็นกันเอง เพื่ออธิบายผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น พร้อมทั้งเปิดใจรับฟังเหตุผลของอีกฝ่าย ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการหาทางออกร่วมกันก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย

2. แจ้งนิติบุคคลหรือผู้ดูแลหมู่บ้าน

หากการพูดคุยกันเองไม่เป็นผล หรือไม่สะดวกใจที่จะพูดคุยโดยตรง ให้แจ้งเรื่องไปยังนิติบุคคลหรือผู้ดูแลหมู่บ้าน เพื่อให้เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา เพราะผู้ดูแลมีอำนาจในการตักเตือนและมีกฎระเบียบที่ลูกบ้านในโครงการต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาสิทธิของลูกบ้านทุกราย

3. รวบรวมหลักฐานความผิดปกติ

คุณควรรวบรวมหลักฐานเพื่อยืนยันว่ามีเสียงดังรบกวนจริง เช่น การบันทึกเสียง, ถ่ายวิดีโอ หรือบันทึกวันและเวลาที่เกิดเหตุเอาไว้ให้ชัดเจน รวมถึงระบุรายละเอียดว่าเสียงนั้นเป็นเสียงประเภทใดและเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการพิจารณาสำหรับขั้นตอนต่อไป

4. ใช้มาตรการทางกฎหมาย

เมื่อทำทุกวิถีทางข้างต้นแล้วไม่เป็นผล การใช้กฎหมายถือเป็นทางเลือกสุดท้าย โดยแจ้งความไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาไกล่เกลี่ย หากยังไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อหาการกระทำอันเป็นเหตุรำคาญได้ ซึ่งมีโทษทางกฎหมายตามมาตรา 370 รวมถึงการลงบันทึกประจำวันเพื่อใช้เป็นหลักฐานในอนาคต

5. ร้องเรียนที่สำนักงานเขต หรือ อบต.

คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานเขตหรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่รับผิดชอบพื้นที่ของคุณได้โดยตรง โดยยื่นคำร้องพร้อมแนบหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาตรวจสอบและวัดระดับความดังของเสียงตามกฎหมายสาธารณสุข

6. ใช้หลักการของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข คุณสามารถยื่นฟ้องศาลในข้อหาละเมิดสิทธิได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายจากความเดือดร้อนที่ได้รับจากการกระทำของเพื่อนบ้าน โดยมีโอกาสได้รับค่าชดเชยหากมีหลักฐานที่หนักแน่น แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายทางกฎหมายสูง

7. แก้ปัญหาด้วยตัวเองด้วยการติดตั้งฉนวนกันเสียง

หากไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเพื่อนบ้านหรือใช้กฎหมาย การติดตั้งฉนวนกันเสียง หรือการปรับปรุงบ้าน ให้มีคุณสมบัติป้องกันเสียงเข้า-ออก ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผ้าม่านกันเสียง การติดตั้งวัสดุซับเสียง หรือการปรับปรุงผนังเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก

ข้างบ้านเสียงดัง แจ้งใครได้บ้าง?

ผู้ที่ควรแจ้ง เมื่อข้างบ้านเสียงดัง

เมื่อเผชิญกับปัญหาเพื่อนบ้านส่งเสียงดังรบกวน คุณสามารถแจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตามลำดับดังนี้

  1. นิติบุคคล/ผู้ดูแลโครงการ: สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม สามารถแจ้งเรื่องไปยังผู้ดูแลโครงการเพื่อขอให้ช่วยเจรจาหรือตักเตือนเพื่อนบ้านได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด

  2. เจ้าหน้าที่ตำรวจ: หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข สามารถแจ้งความไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาไกล่เกลี่ยหรือบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานสำหรับการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปได้

  3. เจ้าพนักงานท้องถิ่น: คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานเขต หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและวัดระดับเสียง ซึ่งหากพบว่าเกินมาตรฐาน เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการสั่งการให้แก้ไขได้ทันที

แชร์! ข้อกฎหมายเกี่ยวกับเพื่อนบ้านเสียงดัง ที่ควรรู้

เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล การใช้กฎหมายถือเป็นทางเลือกสุดท้ายเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง ซึ่งมีกฎหมายหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องดังนี้

1. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370

กฎหมายนี้ระบุว่า "ผู้ใดส่งเสียงดังหรือกระทำการให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมโดยไม่มีเหตุอันควร จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน" มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งถือเป็นความผิดลหุโทษ (ความผิดเล็กน้อย) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันที หากพิจารณาแล้วพบว่าเสียงนั้นก่อความรำคาญเกินปกติวิสัยและไร้เหตุผลสมควร

2. พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535

กฎหมายนี้ให้อำนาจแก่ "เจ้าพนักงานท้องถิ่น" เช่น นายกเทศมนตรี หรือนายก อบต. ในการจัดการกับแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็น "เหตุรำคาญ" หากพิสูจน์ได้ว่าระดับเสียงเกินมาตรฐานที่กำหนด เจ้าหน้าที่สามารถออกคำสั่งให้ผู้ก่อเหตุระงับเสียงนั้นได้โดยทันที หรือกำหนดแนวทางในการแก้ไขเพื่อลดผลกระทบในระยะยาว

3. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และ 421

กฎหมายนี้เปิดช่องให้ "ผู้เสียหาย" สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งได้ โดยอ้างอิงว่าการกระทำของเพื่อนบ้านเป็นการ "ละเมิดสิทธิ" ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อคุณโดยเจตนาหรือประมาท ซึ่งความเสียหายอาจหมายถึงทั้งความเดือดร้อนทางกายและทางจิตใจ การฟ้องร้องในส่วนนี้จะมุ่งเน้นที่การเรียกร้องค่าชดเชยที่สมควรแก่ความเสียหายที่ได้รับจากการกระทำนั้น

ข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการทางกฎหมาย

  • การรวบรวมหลักฐาน: นอกจากบันทึกเสียงและภาพถ่ายแล้ว การทำบันทึกประจำวันกับตำรวจเพื่อลงรายละเอียดเหตุการณ์แต่ละครั้ง ก็ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความต่อเนื่องของปัญหาได้ด้วยเช่นกัน

  • ใช้หนังสือเตือน: การส่งหนังสือเตือนอย่างเป็นทางการผ่านทนายความไปยังเพื่อนบ้าน อาจเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความจริงจังในการดำเนินการทางกฎหมาย และอาจช่วยให้ปัญหายุติลงได้โดยไม่ต้องขึ้นศาล

  • การไกล่เกลี่ยในชั้นศาล: ในบางกรณีศาลอาจแนะนำให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างทั้งสองฝ่ายก่อนการพิจารณาคดีจริง ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถหาทางออกร่วมกันได้โดยไม่ต้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ข้างบ้านเสียงดังได้ถึงกี่โมง?

ตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ได้กำหนดระดับเสียงที่เหมาะสมเพื่อป้องกันเหตุรำคาญ โดยแบ่งช่วงเวลาออกเป็นกลางวันและกลางคืน หากเป็นช่วงเวลากลางวันตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 22.00 น. ระดับเสียงไม่ควรเกิน 70 เดซิเบล

และสำหรับช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่ 22.00 น. ถึง 07.00 น. ระดับเสียงไม่ควรเกิน 50 เดซิเบล ซึ่งหากระดับเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในช่วงเวลาใดก็ตาม ถือว่าเป็นเหตุรำคาญที่สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที

บทลงโทษตามกฎหมายสำหรับผู้ก่อเสียงดังรบกวนบุคคลอื่น มีอะไรบ้าง?

บทลงโทษตามกฎหมายสำหรับผู้ก่อเสียงดังรบกวนบุคคลอื่น

การส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านจนเกิดความเดือดร้อน มีบทลงโทษทางกฎหมายที่สามารถเอาผิดได้ดังนี้

  • โทษปรับทางอาญา: ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 กำหนดไว้ว่า "ผู้ใดส่งเสียงดังหรือกระทำการให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมโดยไม่มีเหตุอันควร จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน" มีโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

  • คำสั่งจากเจ้าพนักงาน: เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ในการออกคำสั่งให้ผู้ก่อเหตุระงับหรือแก้ไขแหล่งกำเนิดเสียงดังทันที หากฝ่าฝืนคำสั่งอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท
  • การฟ้องร้องทางแพ่ง: ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินอย่างร้ายแรง

สรุป

ปัญหาเพื่อนบ้านส่งเสียงดังเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน การจัดการอย่างถูกวิธีตั้งแต่การพูดคุยเจรจาไปจนถึงการดำเนินการทางกฎหมาย จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้อีกครั้ง

Frasers Property เข้าใจความกังวลนี้เป็นอย่างดี จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านที่มอบความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพเพื่อป้องกันเสียงรบกวน และการวางผังโครงการที่คำนึงถึงพื้นที่ส่วนตัวของทุกครอบครัว เพื่อให้คุณได้พักผ่อนและใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างเต็มที่อย่างแท้จริง สอบถามข้อมูลโครงการบ้านต่าง ๆ เพิ่มเติม ติดต่อ โทร. 1520 หรือทาง Facebook: Frasers Property Home และ LINE: @frasershome

แหล่งข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับเพื่อนบ้านเสียงดัง

prd. 
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/226427