บ้านชานเมืองและบ้านในเมืองต่างก็มีเสน่ห์และข้อดี ข้อเสียที่เป็นเอกลักษณ์ แล้วทั้งสองนี้ต่างกันอย่างไรบ้าง? ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยจึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ความต้องการ และงบประมาณของคุณ บทความนี้ Frasers Property Home จะพาคุณไปทำความรู้จักกับบ้านทั้งสองประเภท เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าบ้านแบบไหน คือ บ้านที่ใช่สำหรับคุณมากที่สุด? ตามมาดูกันเลย!
ทำความรู้จัก! บ้านชานเมืองกับบ้านในเมือง
มาดูกันว่าบ้านทั้งสองประเภทมีลักษณะอย่างไร? เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
บ้านชานเมือง
บ้านชานเมือง คือ ที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่นอกเขตใจกลางเมืองออกไป มักจะรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว บรรยากาศเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเท่าในเมือง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในย่านชานเมืองจะย่อมเยากว่าในเมือง ทำให้สามารถซื้อบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีสวนหย่อม หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านที่ครบครันได้ง่ายกว่า
บ้านในเมือง
บ้านในเมือง คือ ที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจสำคัญ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของความเจริญ มีการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้สถานที่ทำงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิงต่าง ๆ ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัวและประหยัดเวลาในการเดินทาง
โดยทั่วไปแล้วบ้านในเมืองมักจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงมากนั่นเอง จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนโสด คู่รักที่ไม่มีบุตร หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง ต่างกันยังไง?
การตัดสินใจเลือกระหว่างบ้านชานเมืองกับบ้านในเมืองนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละด้าน ดังนี้
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่ากันด้านสิ่งอำนวยความสะดวก
-
บ้านชานเมือง
สำหรับบ้านชานเมือง โดยทั่วไปแล้วมักมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ได้ครบครันเท่าในใจกลางเมืองใหญ่ ๆ คุณอาจต้องขับรถไปสักหน่อยเพื่อเข้าถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาล หรือสถานบันเทิงชั้นนำ อย่างไรก็ตามในพื้นที่ชานเมืองก็ยังมีร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ร้านอาหารท้องถิ่น และโรงเรียนอยู่ใกล้ ๆ และจุดเด่นที่สำคัญ คือ บ้านชานเมืองมักจะมีพื้นที่สาธารณะหรือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจและใช้เวลากับธรรมชาติได้มากกว่า -
บ้านในเมือง
สำหรับบ้านในเมือง คุณจะได้รับความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างอยู่ใกล้แค่เอื้อม ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาลชั้นนำ สถานศึกษาชื่อดัง ร้านอาหารหลากหลายประเภท รวมถึงแหล่งบันเทิงและวัฒนธรรมต่าง ๆ ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมากนัก
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่าในด้านทำเล
-
บ้านชานเมือง
ทำเลของบ้านชานเมืองมักจะให้ความรู้สึกเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง และต้องการพื้นที่พักผ่อนที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ถึงแม้บ้านชานเมืองจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่หลายโครงการในปัจจุบันก็มีการก่อตั้งโครงการใกล้กับเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น -
บ้านในเมือง
ทำเลของบ้านในเมือง คือ จุดเด่นสำคัญที่สุด เพราะบ้านในเมืองจะอยู่ใกล้กับศูนย์กลางทางธุรกิจ สถานที่ทำงานออฟฟิศใหญ่ ๆ และความเจริญทุกรูปแบบ ทำให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำงานหรือทำธุระต่าง ๆ เหมาะกับผู้ที่เน้นความคล่องตัวและต้องการใช้ชีวิตที่ทันสมัยในย่านใจกลางเมือง
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่ากันในเรื่องการเดินทาง
-
บ้านชานเมือง
เรื่องการเดินทางในย่านชานเมืองอาจต้องพึ่งพาการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะอาจยังไม่ครอบคลุมเท่าในเมือง แต่ข้อดี คือ ถนนหนทางมักจะกว้างขวางกว่า และปัญหาการจราจรติดขัดก็เบากว่าในเมืองมาก ๆ -
บ้านในเมือง
การเดินทางในเมืองสะดวกสบายอย่างยิ่ง ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS, MRT, รถเมล์, รถแท็กซี่ หรือแม้แต่เรือด่วน ทำให้คุณสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่ายดายและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัวก็ใช้ชีวิตได้สบาย
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่ากันในด้านการออกแบบ
-
บ้านชานเมือง
การออกแบบบ้านชานเมืองมักจะเน้นไปที่พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง มีพื้นที่สำหรับสวน สนามหญ้า หรือพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งได้มากกว่า คุณจึงมีอิสระในการออกแบบและตกแต่งบ้านให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และมักจะมีรูปแบบบ้านที่หลากหลายกว่า - บ้านในเมือง
การออกแบบบ้านในเมืองมักจะเน้นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าและเป็นสัดส่วน เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่และราคาที่ดินที่สูง โดยส่วนใหญ่มักจะออกแบบเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ค่อนข้างเร่งรีบและต้องการความสะดวกสบายครบครัน
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: ด้านความหนาแน่นผู้อาศัย
-
บ้านชานเมือง
ในย่านชานเมืองความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยจะน้อยกว่าในเมืองมาก ๆ บรรยากาศโดยรอบจึงเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ว่างมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและต้องการสังคมที่ไม่แออัด -
บ้านในเมือง
ความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยในเมืองจะสูงมาก เนื่องจากเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมและผู้คน ทำให้รู้สึกคึกคักตลอดเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้น ชอบพบปะผู้คน และต้องการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่ากันในเรื่องงบประมาณ
-
บ้านชานเมือง
โดยทั่วไปแล้ว งบประมาณสำหรับการซื้อบ้านในย่านชานเมืองจะย่อมเยากว่าในเมืองมาก ๆ ทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ หรือมีสวนสวย ๆ ได้ด้วยงบประมาณที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า -
บ้านในเมือง
งบประมาณ คือ ปัจจัยสำคัญที่สุดในการซื้อบ้านในเมือง ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเขตใจกลางเมืองมักจะสูงมาก ซึ่งคุณอาจจะต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่าเพื่อแลกกับความสะดวกสบายและการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่าด้านสภาพแวดล้อม
-
บ้านชานเมือง
สภาพแวดล้อมในย่านชานเมืองมักจะมีความร่มรื่นกว่า มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า อากาศบริสุทธิ์กว่า และมีมลภาวะทางเสียงน้อยกว่าในเมือง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในด้านสิ่งแวดล้อม -
บ้านในเมือง
สภาพแวดล้อมในเมืองมักจะมีความวุ่นวาย มีมลภาวะทางอากาศและเสียงมากกว่า รวมถึงมีพื้นที่สีเขียวจำกัด แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบายในการเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ย่านใจกลางเมืองมี
บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง: อันไหนดีกว่ากันในเรื่องค่าครองชีพ
-
บ้านชานเมือง
ค่าครองชีพในย่านชานเมืองมักจะถูกกว่าในเมือง ทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าบริการต่าง ๆ ทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างประหยัดมากขึ้น และมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น -
บ้านในเมือง
ค่าครองชีพในเมืองจะค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่า หรือค่าบริการต่าง ๆ ทำให้คุณต้องวางแผนการเงินให้ดีและรัดกุมขึ้น หากตัดสินใจจะใช้ชีวิตในเมือง
เลือกอันไหนดีระหว่าง บ้านชานเมือง vs บ้านในเมือง
การตัดสินใจเลือกระหว่างบ้านชานเมืองและบ้านในเมืองขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าบ้านแบบไหนดีที่สุด แต่จะขึ้นอยู่กับว่าบ้านแบบไหนจะตอบโจทย์คุณได้มากที่สุดนั่นเอง ขอแนะนำให้ลองพิจารณาจาก 5 ข้อนี้เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบ้านได้ง่ายขึ้น
1. ไลฟ์สไตล์ที่คุณชื่นชอบ
ถ้าคุณเป็นคนรักความสงบ ชอบธรรมชาติ และไม่ชอบความวุ่นวาย บ้านชานเมืองอาจตอบโจทย์กว่า เพราะมีพื้นที่สีเขียวมากกว่า อากาศบริสุทธิ์ และบรรยากาศผ่อนคลาย แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบความสะดวกสบาย ต้องการเข้าถึงแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงได้อย่างรวดเร็ว บ้านในเมืองก็จะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและต้องการความทันสมัยมากกว่านั่นเอง
2. งบประมาณในการซื้อและค่าครองชีพ
บ้านชานเมือง โดยทั่วไปแล้วจะมีราคาที่ดินและบ้านที่ย่อมเยากว่า ทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ค่าครองชีพในย่านชานเมือง เช่น ค่าอาหาร หรือค่าเดินทาง ก็มักจะถูกกว่าในเมือง ส่วนบ้านในเมือง แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบายและโอกาสในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว คุณจึงต้องพิจารณางบประมาณที่มีและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างรอบคอบ
3. การเดินทางและการทำงาน
หากคุณทำงานในเขตใจกลางเมือง และต้องการประหยัดเวลาในการเดินทาง บ้านในเมือง คือ ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะใกล้ระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลายและเข้าถึงสถานที่ทำงานต่าง ๆ ได้ง่าย แต่ถ้าคุณสามารถทำงานจากที่บ้านได้ หรือมีรถยนต์ส่วนตัวและไม่ติดเรื่องการเดินทางมากนัก บ้านชานเมืองก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะถนนหนทางมักจะโล่งกว่า และมีปัญหารถติดน้อยกว่า
4. สภาพแวดล้อมและสังคม
บ้านชานเมือง มักจะให้ความรู้สึกถึงความเป็นชุมชนที่อบอุ่นและเป็นกันเอง มีความปลอดภัยสูงกว่า และมีพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการเลี้ยงลูกในสภาพแวดล้อมที่ดีและใกล้ชิดธรรมชาติ ขณะที่บ้านในเมือง แม้จะมีความหนาแน่นสูงกว่า แต่ก็มีโอกาสในการพบปะผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม รวมถึงเข้าถึงกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ง่าย
5. แผนในอนาคตและเป้าหมายชีวิต
ลองมองภาพอนาคตว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้า ไลฟ์สไตล์ของคุณจะเป็นอย่างไร? หากคุณวางแผนที่จะมีครอบครัวใหญ่ ต้องการพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง หรือต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสงบ บ้านชานเมืองก็อาจเป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนกว่า แต่ถ้าคุณยังคงอยู่ในช่วงสร้างตัว ต้องการความคล่องตัวสูง และมองหาโอกาสในการทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ อยู่ บ้านในเมือง ก็อาจตอบโจทย์เป้าหมายในระยะสั้นและกลางของคุณได้ดีกว่านั่นเอง
สรุป
ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งบ้านชานเมืองและบ้านในเมือง ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียเฉพาะตัว การตัดสินใจเลือกจึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ความชอบ งบประมาณ และความต้องการในชีวิตของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่มีที่ไหนดีที่สุด มีแต่ที่ไหนที่จะเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณและครอบครัวเท่านั้น
หากคุณกำลังมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ Frasers Property มีโครงการบ้านคุณภาพหลากหลายทำเล ทั้งในเมืองและชานเมือง พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคุณและคนที่คุณรัก