บ้านมีกี่ประเภท คำถามที่หลายคนสงสัย เพราะบ้านที่อยู่อาศัยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งขนาด รูปทรง และฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันไป การเลือกบ้านสักหลังจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้ได้บ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของบ้านที่อยู่อาศัยต่าง ๆ กัน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเมื่อต้องการซื้อบ้าน
1. บ้านเดี่ยว (Detached house)
บ้านเดี่ยว (detached house) คือบ้านที่สร้างแยกเป็นหลัง ๆ ไม่ติดกับบ้านหลังอื่น มีพื้นที่เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ขนาดที่ดินตั้งแต่ 50 ตร.วา เป็นต้นไป มอบความเป็นส่วนตัวสูง สามารถออกแบบและตกแต่งได้ตามใจชอบ ที่สำคัญมีบ้านให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กกะทัดรัด ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
ข้อดีของบ้านเดี่ยว
- มีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีเสียงจากผู้อยู่อาศัยคนอื่นมารบกวน
- มีอิสระในการออกแบบ สามารถตกแต่งและปรับปรุงบ้านได้ตามใจชอบ
- มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือคนที่ต้องการพื้นที่เยอะ
ข้อจำกัดของบ้านเดี่ยว
- โดยทั่วไปแล้วบ้านเดี่ยวจะมีราคาสูงกว่าประเภทบ้านอื่น ๆ
- เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ จึงต้องใช้ค่าดูแลรักษาที่สูงกว่า
- อาจมีตัวเลือกทำเลที่จำกัดกว่าประเภทบ้านอื่น ๆ
แนะนำโครงการบ้านของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ซื้อบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ โครงการใหม่ ทำเลคุณภาพในกรุงเทพ 2568
2. บ้านแฝด (Twin house)
บ้านแฝด (twin house) คือบ้านที่สร้างติดกัน 2 หลัง มีลักษณะคล้ายบ้านเดี่ยว แต่มีขนาดที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ 35 ตร.วา - 50 ตร.วา และมีผนังด้านหนึ่งติดกัน มอบความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าทาวน์โฮม แต่ยังมีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าบ้านเดี่ยว บ้านแฝดจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอในราคาที่คุ้มค่า
ข้อดีของบ้านแฝด
- ราคาประหยัดกว่าบ้านเดี่ยว เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
- มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าทาวน์โฮม เพราะมีเพียงแค่ผนังกั้นระหว่างบ้านทั้งสองหลัง
- มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง
- ทำเลที่ตั้งมักอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก
ข้อจำกัดของบ้านแฝด
- มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าบ้านเดี่ยว เนื่องจากมีผนังติดกับบ้านอีกหลัง
- มีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะพื้นที่รอบบ้าน
- อาจมีข้อจำกัดในการตกแต่งส่วนที่ติดกับบ้านข้างเคียง
3. ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ (Townhome Townhouse)
ทาวน์โฮม และ ทาวน์เฮ้าส์ (Townhome Townhouse) คือบ้านที่สร้างเรียงติดกันหลายหลัง มีลักษณะเป็นแถว มีผนังด้านข้างติดกันทั้งสองฝั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองหรือพื้นที่ที่มีการเดินทางสะดวก
ข้อดีของทาวน์โฮม
- ราคาประหยัดที่สุด เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
- ทำเลที่ตั้งมักอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า
ข้อจำกัดของทาวน์โฮม
- มีความเป็นส่วนตัวน้อย เพราะมีผนังติดกับบ้านข้างเคียงทั้งสองฝั่ง
- พื้นที่ใช้สอยน้อย เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก
- มีข้อจำกัดในการตกแต่งมากกว่าบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
แนะนำโครงการทาวน์โฮมของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม โครงการทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ สองชั้น โครงการใหม่ ทุกทำเล
4. คอนโดมิเนียม (Condo)
คอนโดมิเนียม (condo) คืออาคารชุดพักอาศัยสูงหลายชั้น มีห้องชุดหลายยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินส่วนกลาง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Co-working Space และสวนหย่อม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
ข้อดีของคอนโดมิเนียม
- ทำเลที่ตั้ง มักอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งชุมชน
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาห้องเองค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมีส่วนกลางดูแลเรื่องการซ่อมแซม
ข้อจำกัดของคอนโดมิเนียม
- มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด
- มีความเป็นส่วนตัวน้อย ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้อาศัยคนอื่น ๆ
- มีค่าส่วนกลางที่ต้องชำระเป็นรายเดือน
- มีกฎระเบียบในการอยู่อาศัยที่เข้มงวด
5. อาคารพาณิชย์ (Commercial building)
อาคารพาณิชย์ (Commercial building) คืออาคารที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยและเพื่อการค้า สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นออฟฟิศ ร้านค้า หรือโกดังได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานและอยู่อาศัยในที่เดียวกัน หรือผู้ที่ต้องการทำธุรกิจ
ข้อดีของอาคารพาณิชย์
- มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้
- ทำเลที่ตั้ง มักอยู่ในทำเลที่เหมาะสำหรับการค้า
- หากไม่ได้ใช้ประโยชน์เอง สามารถปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้
- เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า เพราะราคาของอาคารพาณิชย์มักมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
ข้อจำกัดของอาคารพาณิชย์
- มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งราคาที่ขายและค่าดูแลรักษา
- อาจมีเสียงดังจากกิจกรรมทางการค้า
- อาจมีปัญหาเรื่องการจราจร และที่จอดรถมีจำกัด
6. โฮมออฟฟิศ (Home Office)
โฮมออฟฟิศ (Home Office) คือบ้านที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่สำหรับทำงานและอยู่อาศัยในอาคารเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานอิสระ หรือต้องการความสะดวกในการทำงานที่บ้าน
ข้อดีของโฮมออฟฟิศ
- มีความสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางไปทำงาน
- มีความเป็นส่วนตัว สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย
- ประหยัดเวลาในการเดินทาง
- สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ ตามความต้องการในการทำงาน
ข้อจำกัดของโฮมออฟฟิศ
- อาจมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องมีการลงทุนในการปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับการทำงาน
- อาจขาดแคลนความเป็นส่วนตัว ในกรณีที่หากมีสมาชิกในครอบครัว ส่งผลกระทบต่อสมาธิในการทำงาน
- อาจมีปัญหาเรื่องภาษีหากใช้บ้านเป็นสถานที่ทำงานหลัก
สรุป เลือกบ้านประเภทไหนดี ให้ตอบโจทย์
จากที่เราได้ทำความรู้จักกับประเภทของบ้านที่อยู่อาศัยกันมาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ หรือโฮมออฟฟิศ แต่ละประเภทก็มีข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป
การจะเลือกบ้านสักหลังนั้น จึงขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นหลัก
- หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวสูง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง: บ้านเดี่ยว หรือบ้านแฝด อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- หากคุณต้องการความสะดวกสบาย ใกล้แหล่งชุมชน: คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม อาจตอบโจทย์ได้ดี
- หากคุณต้องการพื้นที่ทำงานและอยู่อาศัยในที่เดียวกัน: โฮมออฟฟิศ หรืออาคารพาณิชย์ อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
- หากคุณมีงบประมาณจำกัด: ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ก็อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณนั่นเอง
ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน จึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าบ้านมีกี่ประเภท และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกซื้อบ้านแต่ละประเภทที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณให้ตรงจุดมากที่สุดนั่นเอง