บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) คืออะไร? มีอุปกรณ์อะไรบ้าง รวมข้อดี-ข้อเสีย

บ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home นวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการจัดการพลังงาน ด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันผ่านเครือข่าย คุณจึงสามารถควบคุมและสั่งการระบบภายในบ้านได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม นับเป็นเทรนด์การอยู่อาศัยที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และพลิกโฉมวิถีชีวิตคนยุคใหม่ให้ง่ายดายยิ่งขึ้น

Frasers Property จะพาคุณไปดูกันว่า บ้านอัจฉริยะคืออะไร? มีอุปกรณ์อะไรบ้างที่น่าสนใจ รวมถึงข้อดีและข้อเสียที่คุณควรรู้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเนรมิตบ้านของคุณให้เป็น Smart Home

ทำไมบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home ถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ทำไมบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home ถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

บ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบันด้วยเหตุผลหลักหลายประการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้คนยุคใหม่ ด้วยจุดเด่นต่าง ๆ ดังนี้

  • ความสะดวกสบายและสบาย (Convenience & Comfort) ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือคำสั่งเสียง ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดไฟ, ปรับอุณหภูมิแอร์, เปิดเพลง หรือแม้กระทั่งเปิดม่าน โดยไม่ต้องลุกจากที่นอนหรืออยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ระบบยังสามารถตั้งเวลาหรือสร้าง Scenario (สถานการณ์) ที่ซับซ้อน เช่น "ตื่นนอน" ไฟจะค่อย ๆ สว่างขึ้น ม่านเปิดออก และกาแฟเริ่มชงเอง ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก

  • ระบบรักษาความปลอดภัยของ Smart Home ช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้น เช่น กล้องวงจรปิดที่ดูได้เรียลไทม์, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, เซ็นเซอร์ประตูหน้าต่างที่แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการบุกรุก และระบบล็อคประตูอัจฉริยะที่สั่งการจากระยะไกลได้ ทำให้คุณสามารถเฝ้าระวังบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • อุปกรณ์ Smart Home หลากหลายประเภทเป็นตัวช่วยชั้นดีในการจัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟอัจฉริยะที่สามารถปรับความสว่างได้ดั่งใจ, เครื่องปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติตามสภาพอากาศหรือเมื่อตรวจไม่พบคน, ไปจนถึงปลั๊กไฟอัจฉริยะที่สั่งตัดไฟได้เมื่ออุปกรณ์ไม่ได้ใช้งาน ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของคุณในระยะยาวได้อย่างชัดเจน

  • การควบคุมระบบ Smart Home มักทำได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรืออุปกรณ์ Smart Speaker (ลำโพงอัจฉริยะ) ที่รองรับคำสั่งเสียง ทำให้การสั่งการง่ายดาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

  • Smart Home สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้สูงอายุหรือผู้พิการได้มาก ด้วยการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้จากระยะไกล ทำให้ลดความจำเป็นในการเคลื่อนไหวได้

  • การที่คุณสามารถตรวจสอบสถานะบ้านของคุณได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย หรือสถานะของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิดทิ้งไว้ จะช่วยให้คุณลดความกังวลลงได้อย่างมากเมื่ออยู่นอกบ้าน

ด้วยจุดเด่นต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้บ้านอัจฉริยะไม่ได้เป็นเพียงแค่ของเล่นทางเทคโนโลยี แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) คืออะไร?

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) คือ

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) คือที่อยู่อาศัยที่นำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต (IoT - Internet of Things) และระบบอัตโนมัติมาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน ทำให้สามารถควบคุมและสั่งการอุปกรณ์เหล่านั้นได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคำสั่งเสียง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย แถมยังช่วยประหยัดพลังงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?

การจะเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะนั้น ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันขององค์ประกอบหลัก 3 ส่วน เพื่อให้ระบบสามารถสื่อสารและทำงานได้อย่างราบรื่น ดังนี้        

  • Smart Device
    Smart Device บ้านอัจฉริยะ (Smart Home)

    คืออุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ และมีฟังก์ชันการทำงานที่ชาญฉลาด สามารถรับคำสั่งและทำงานได้โดยอัตโนมัติ หรือกึ่งอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หลอดไฟอัจฉริยะ, เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ, กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ, ลำโพงอัจฉริยะ, ปลั๊กไฟอัจฉริยะ, เซ็นเซอร์ต่าง ๆ (ตรวจจับการเคลื่อนไหวหรือเปิด-ปิดประตู) หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนอย่างตู้เย็นอัจฉริยะ

  • Intelligent Control System
    เปรียบเสมือนสมองของ Smart Home ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางหรือ Hub ในการเชื่อมต่อ ประสานงาน และควบคุมอุปกรณ์ Smart Device ต่าง ๆ ภายในบ้านให้ทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ ระบบนี้อาจอยู่ในรูปของ Smart Home Hub โดยเฉพาะ หรือ Smart Speaker (ลำโพงอัจฉริยะที่มี AI) หรือแม้แต่แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ทำหน้าที่เป็นแผงควบคุมหลัก

    ซึ่งระบบนี้จะรับคำสั่งจากผู้ใช้งาน (เช่น ผ่านแอปพลิเคชันหรือเสียง) และส่งต่อไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ทำงานตามที่ต้องการ รวมถึงยังสามารถเพิ่มการตั้งค่า Scenario หรือ Automation ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้

  • Smart Home Network
    คือโครงข่ายการสื่อสารที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ Smart Device และ Intelligent Control System สามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เปรียบเสมือนเส้นประสาทของบ้านอัจฉริยะ โดยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่นิยมใช้ใน Smart Home ได้แก่ Wi-Fi, Bluetooth, Zigbee, Z-Wave หรือ Thread ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีก็มีข้อดีข้อเสียและระยะการทำงานที่แตกต่างกันไป โดยเครือข่ายเหล่านี้จะรับสัญญาณคำสั่งจาก Controller และส่งต่อไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านั้นตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้งาน            

บ้านอัจฉริยะ Smart Home เหมาะสำหรับใครบ้าง?

บ้านอัจฉริยะ Smart Home เหมาะสำหรับใคร

บ้านอัจฉริยะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบาย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนเหล่านี้

  • คนรุ่นใหม่และคนวัยทำงาน ที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้ชีวิตประจำวัน ที่สามารถควบคุมบ้านได้จากทุกที่ทุกเวลา และมีความชื่นชอบในเรื่องของเทคโนโลยี

  • ครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ เพราะบ้านอัจฉริยะจะมีระบบความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด, เซ็นเซอร์ประตู, ระบบล็อคอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการดูแลสมาชิกในบ้าน อีกทั้งยังมีการควบคุมด้วยเสียงหรือแอปฯ ช่วยให้ผู้สูงอายุใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเคลื่อนไหวมาก

  • ผู้ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย ต้องการระบบเฝ้าระวังที่ทำงานตลอดเวลา สามารถแจ้งเตือนและตรวจสอบบ้านได้จากระยะไกลเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ

  • ผู้ที่ต้องการประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากระบบอัจฉริยะจะช่วยให้คุณจัดการกับการใช้ไฟฟ้าและพลังงานอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • เจ้าของธุรกิจหรือผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ระบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะบ้านและควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้จากระยะไกล ทำให้หมดกังวลเรื่องบ้านเมื่อต้องออกไปทำงานหรือเดินทาง

  • ผู้ที่ชื่นชอบการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวัน และต้องการบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ Smart Living

เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็น บ้านอัจฉริยะ มีวิธีไหนบ้าง?

การเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความซับซ้อนที่คุณต้องการ อาทิเช่น

1. เพิ่มประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ต

เพิ่มประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ต

ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและทรงพลัง ถือเป็นหัวใจหลักเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของบ้านอัจฉริยะ เพราะอุปกรณ์ Smart Home ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อนี้เพื่อสื่อสารและรับคำสั่งจากคุณ โดยคุณสามารถยกระดับระบบได้ด้วยวิธีเหล่านี้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและสัญญาณเสถียรครอบคลุมทั่วทั้งบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนจะมีอุปกรณ์ Smart Device จำนวนมาก

  • ใช้ Router ที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุด (เช่น Wi-Fi 6 หรือ Wi-Fi 7) และมี Bandwidth เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมด

  • หากบ้านมีขนาดใหญ่หรือมีจุดอับสัญญาณ ควรพิจารณาติดตั้งระบบ Mesh Wi-Fi เพื่อขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วถึงและเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น

  • สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรสูง เช่น Smart TV หรือ Home Security Hub ควรพิจารณาการเชื่อมต่อผ่านสาย LAN หากเป็นไปได้

2. บ้านอัจฉริยะ Smart IoT

แนวคิดหลักของบ้านอัจฉริยะ คือ การนำอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) มาใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น

  • Smart Devices (อุปกรณ์อัจฉริยะ) เริ่มต้นจากการเลือกซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะที่คุณต้องการใช้งาน ตัวอย่างเช่น
    • หลอดไฟอัจฉริยะที่ควบคุมผ่านแอปฯ หรือเสียง ที่สามารถปรับสีและความสว่างได้
    • เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ หรือ Smart Thermostat ที่ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติหรือควบคุมจากระยะไกลได้
    • กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือเซ็นเซอร์ประตู/หน้าต่าง, ระบบล็อคประตูอัจฉริยะ
    • เปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดาให้เป็นอัจฉริยะด้วยการควบคุมการเปิด-ปิดไฟผ่านแอปฯ
    • ลำโพงอัจฉริยะ (Smart Speaker) เช่น Google Nest, Amazon Echo สำหรับการสั่งการด้วยเสียงและเป็นศูนย์กลางการควบคุม
    • เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เข่น ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมผ่านแอปฯ
  • Smart Home Hub/Controller (ศูนย์กลางควบคุม) อุปกรณ์เหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อและประสานงานระหว่าง Smart Devices ต่าง ๆ ซึ่งอาจใช้มาตรฐานการสื่อสารที่หลากหลาย (เช่น Zigbee, Z-Wave, Thread) เพื่อให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างยี่ห้อกันได้ หรือใช้ Smart Speaker ที่มี Hub ในตัว

เมื่อมีอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว คุณสามารถตั้งค่า Automation หรือ Routines (Scenario) ได้ เช่น

  • กลับบ้าน - ประตูปลดล็อค ไฟหน้าบ้านเปิด แอร์เริ่มทำงาน
  • เข้านอน - ไฟหรี่ลง ประตูทั้งหมดล็อค และระบบรักษาความปลอดภัยเปิด
  • การทำงานอัตโนมัติที่เชื่อมโยงกับเซ็นเซอร์ เช่น เมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว ไฟก็จะเปิดโดยอัตโนมัติ เป็นต้น
  • จะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นทำบ้านอัจฉริยะนั้นไม่ยากเลย โดยสามารถเริ่มต้นจากค่อย ๆ เพิ่มอุปกรณ์ทีละอย่าง หรือจะลงทุนในระบบที่ครบวงจรเลยก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณนั่นเอง

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ มีอะไรบ้าง?

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ คือแกดเจ็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและสั่งงานได้จากระยะไกล เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้พลังงานภายในบ้าน อาทิเช่น

  1. หลอดไฟอัจฉริยะ
    หลอดไฟอัจฉริยะ (Smart Light Bulbs) ที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิด, หรี่ไฟ, และเปลี่ยนสีได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือคำสั่งเสียง สำหรับในบางรุ่นก็อาจสามารถตั้งเวลาหรือปรับแสงตามอารมณ์ได้ ช่วยประหยัดพลังงานและสร้างบรรยากาศได้ตามที่ต้องการ

  2. สวิตช์ไฟอัจฉริยะ
    สวิตช์ไฟอัจฉริยะ (Smart Light Switches) ช่วยให้คุณควบคุมหลอดไฟธรรมดาให้กลายเป็นหลอดไฟอัจฉริยะได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟ สามารถสั่งงานผ่านแอปฯ และตั้งเวลาการเปิด-ปิดได้สะดวกยิ่งขึ้น

  3. ปลั๊กไฟอัจฉริยะ
    ปลั๊กไฟอัจฉริยะ (Smart Plugs) เป็นอุปกรณ์ที่เสียบเข้ากับเต้ารับปกติ และแปลงปลั๊กไฟธรรมดาให้กลายเป็นปลั๊กอัจฉริยะ ทำให้คุณสามารถควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบอยู่ได้จากระยะไกล  รวมทั้งสามารถตั้งเวลาการทำงานได้

  4. ลำโพงอัจฉริยะ
    ลำโพงอัจฉริยะ (Smart Speakers) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการควบคุมบ้านอัจฉริยะผ่านคำสั่งเสียง (เช่น Google Assistant, Amazon Alexa) สามารถเล่นเพลง, ตั้งเตือน, ตอบคำถาม, และสั่งงานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ได้

  5. สมาร์ตทีวี
    สมาร์ตทีวี (Smart TV) เป็นโทรทัศน์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทำให้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันสตรีมมิงต่าง ๆ (Netflix, YouTube) ได้ และบางรุ่นยังเป็นศูนย์กลางในการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ได้ด้วย

  6. กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ
    กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ (Smart Security Cameras) สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ช่วยให้คุณดูวิดีโอแบบเรียลไทม์บนสมาร์ทโฟนได้ทันที มาพร้อมฟังก์ชันตรวจจับความเคลื่อนไหว และในบางรุ่นยังมีไมโครโฟนกับลำโพงสำหรับการสื่อสารสองทาง เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้กับการรักษาความปลอดภัย

  7. ประตูล็อกดิจิทัล
    ประตูล็อกดิจิทัล (Smart Locks) มอบความสะดวกสบายในการล็อกและเปิดประตูโดยไม่ต้องพึ่งกุญแจ สามารถสั่งงานได้หลากหลายวิธี ทั้งผ่านแอปพลิเคชันมือถือ, รหัสผ่าน, ลายนิ้วมือ หรือแม้แต่เชื่อมต่อกับระบบสมาร์ทโฮมและควบคุมจากระยะไกล

  8. เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ
    เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ (Smart Air Conditioners) ช่วยให้สามารถควบคุมอุณหภูมิ, ตั้งเวลาเปิด-ปิด, และโหมดการทำงานได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน จึงมอบบ้านเย็นสบายก่อนที่คุณจะกลับถึงบ้าน และยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย

  9. เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ
    เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ (Smart Air Purifiers) สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศในบ้านและปรับการทำงานอัตโนมัติ รวมถึงสั่งงานผ่านแอปฯ หรือตั้งเวลาการฟอกอากาศได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย

  10. ตู้เย็นอัจฉริยะ
    ตู้เย็นอัจฉริยะ (Smart Refrigerators) จะมีหน้าจอสัมผัสที่สามารถดูได้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เย็นบ้างผ่านกล้องภายใน เพื่อช่วยในการจัดการอาหารได้ดีและประหยัดพลังงาน ลดการปิด-เปิดตู้เย็นจำนวนบ่อยครั้งได้

  11. เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ
    เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ (Smart Washing Machines) สามารถสั่งงานผ่านแอปฯ เพื่อเริ่มการซัก, ตั้งเวลา, หรือเลือกโปรแกรมการซักที่เหมาะสม รวมถึงแจ้งเตือนเมื่อซักเสร็จ ช่วยให้คุณจัดการงานบ้านได้สะดวกขึ้น

  12. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
    หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuums) มอบความสะดวกสบายด้วยการทำความสะอาดพื้นบ้านให้คุณโดยอัตโนมัติ โดยบางรุ่นมีความสามารถพิเศษในการเรียนรู้แผนที่บ้าน, กลับแท่นชาร์จเองได้ และยังสามารถ สั่งงานผ่านแอปพลิเคชันหรือคำสั่งเสียง เพื่อการควบคุมที่ง่ายดายยิ่งขึ้น

  13. เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ
    เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ (Smart Pet Feeders) ช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาและปริมาณการให้อาหารสัตว์เลี้ยงได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน อีกทั้งในบางรุ่นก็มีกล้องและไมโครโฟนในตัวเพื่อโต้ตอบกับสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย

  14. ระบบรดน้ำอัตโนมัติ
    ระบบรดน้ำอัตโนมัติ (Smart Sprinkler Systems) สามารถเชื่อมต่อกับสภาพอากาศเพื่อปรับการรดน้ำต้นไม้ให้เหมาะสม ช่วยประหยัดน้ำและดูแลสวนของคุณให้เขียวขจีโดยไม่ต้องเฝ้าเอง

  15. ม่านอัจฉริยะ
    ม่านอัจฉริยะ (Smart Blinds/Curtains) สามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติหรือสั่งงานผ่านแอปฯ/คำสั่งเสียง อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาเพื่อควบคุมแสงธรรมชาติที่เข้ามาในบ้านได้อีกด้วย จึงช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

  16. กระจกอัจฉริยะ
    กระจกอัจฉริยะ (Smart Mirrors) เป็นกระจกที่มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ, ข่าวสาร, ปฏิทิน, หรือควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ได้ในขณะที่คุณใช้งานกระจก

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่ที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายขึ้นด้วยการควบคุมเพียงปลายนิ้วหรือคำสั่งเสียง

ข้อดีของบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) มีประโยชน์อะไรบ้าง?

บ้านอัจฉริยะนำมาซึ่งประโยชน์มากมายที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย

  • มอบความสะดวกสบายและควบคุมง่าย

  • มีระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ช่วยให้คุณเฝ้าระวังบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับการแจ้งเตือนทันทีหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ

  • อุปกรณ์อัจฉริยะบางชนิดสามารถช่วย Optimize การใช้พลังงานให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นได้ เช่น หลอดไฟที่หรี่ได้เอง, เครื่องปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิตามการใช้งาน, หรือปลั๊กไฟที่ตัดไฟเมื่อไม่ใช้งาน ทำให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการบ้าน ด้วยระบบอัตโนมัติช่วยลดภาระงานบ้านประจำวัน เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น, เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ, หรือระบบรดน้ำต้นไม้ ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานบ้านของคุณได้

  • บ้านอัจฉริยะสามารถปรับให้เข้ากับการใช้งานของผู้สูงอายุหรือผู้พิการได้ง่ายขึ้น ด้วยการควบคุมด้วยเสียงหรือผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ชีวิตประจำวันมีความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อเสียของบ้านอัจฉริยะ มีอะไรบ้าง?

แม้ว่าบ้านอัจฉริยะจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาบางประการ

  • การติดตั้งระบบบ้านอัจฉริยะเต็มรูปแบบ อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง

  • อุปกรณ์บางอย่างหรือระบบที่ซับซ้อนอาจต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคในการตั้งค่าและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจรู้สึกไม่คุ้นเคย

  • อุปกรณ์อัจฉริยะส่วนใหญ่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ต หากสัญญาณไม่เสถียรหรืออินเทอร์เน็ตล่ม อุปกรณ์เหล่านั้นก็อาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

  • เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเก็บข้อมูลการใช้งาน อาจมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวหรือการถูกแฮกข้อมูลได้ หากไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่หนาแน่นพอ

  • อุปกรณ์จากผู้ผลิตที่แตกต่างกันอาจใช้โปรโตคอลการสื่อสารที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ยากต่อการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันในระบบเดียวกัน

  • อุปกรณ์บางชนิดต้องมีการเปลี่ยนหรือชาร์จแบตเตอรี่เป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นภาระเพิ่มเติมให้กับคุณได้

  • เทคโนโลยี Smart Home มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้อุปกรณ์บางอย่างอาจล้าสมัยได้ในระยะเวลาอันสั้น

คำถามที่พบบ่อย

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะประหยัดพลังงานไหม?

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะหลายชนิดได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ ตัวอย่างเช่น

  • หลอดไฟอัจฉริยะ ที่สามารถหรี่แสง, ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ, หรือปิดได้จากระยะไกลเมื่อไม่มีใครอยู่

  • ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ที่สามารถตั้งเวลาปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น หรือสั่งปิดได้จากภายนอกบ้าน เพื่อป้องกันการใช้พลังงานโดยเปล่าประโยชน์ 

  • เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ/เทอร์โมสตัทอัจฉริยะ จะสามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของคุณ พร้อมปรับอุณหภูมิอัตโนมัติเมื่อตรวจไม่พบคน รวมทั้งยังสามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้ตามตารางเวลา ช่วยหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น

  • อย่างไรก็ตาม การประหยัดพลังงานจะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อผู้ใช้งานตั้งค่าและใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างเหมาะสม

ระบบ Smart Home ราคาเริ่มต้นเท่าไร?

ราคาเริ่มต้นของระบบ Smart Home นั้นมีความหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของระบบและจำนวนอุปกรณ์ที่คุณต้องการติดตั้ง

  • ระดับเริ่มต้น (Basic Smart Home) หากคุณต้องการเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ, ปลั๊กไฟอัจฉริยะ, หรือลำโพงอัจฉริยะ ราคาเริ่มต้นอาจอยู่ที่หลักพันบาทไปจนถึงหมื่นต้น ๆ ซึ่งทั้งนี้คุณสามารถค่อย ๆ ซื้อเพิ่มทีละชิ้นได้

  • ระดับกลาง (Mid-range Smart Home) สำหรับการติดตั้งระบบที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น กล้องวงจรปิด, ประตูล็อกดิจิทัล, หรือเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ อาจมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 50,000 บาท

  • ระดับสูงหรือเต็มรูปแบบ (Advanced/Full Smart Home) ในกรณีที่ต้องการติดตั้งระบบอัตโนมัติที่เชื่อมโยงกันทั้งบ้าน รวมถึงระบบควบคุมแสงสว่าง, ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร, ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์, และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะหลายชนิด ค่าใช้จ่ายอาจอยู่ที่หลักแสนบาทขึ้นไป (ตั้งแต่ 100,000 บาท ไปจนถึงหลายแสนบาท)

จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะ สามารถเริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณที่จำกัดและค่อย ๆ ขยายระบบได้ตามความต้องการและงบประมาณที่มีในอนาคต

สรุป

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) คือการผสานเทคโนโลยีเข้ากับที่อยู่อาศัย โดยเชื่อมโยงอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เข้ากับระบบเครือข่าย คุณจึงสามารถควบคุมและสั่งการได้จากระยะไกล ไม่ว่าจะผ่านสมาร์ทโฟนหรือคำสั่งเสียง สิ่งนี้ไม่เพียงยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ยังทำให้คุณควบคุมทุกสิ่งได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความปลอดภัยทั้งต่อผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สิน และช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาวอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาบ้านที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่เหนือกว่า ลองสัมผัสประสบการณ์บ้านที่รังสรรมาเพื่อคุณได้ใน โครงการบ้านเดี่ยว ใจกลางเมืองของ Frasers Property ดที่พร้อมมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในทุกมิติของการใช้ชีวิต