วิธีกำจัดฝุ่นในห้อง? ฝุ่นในห้องเยอะมากเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่เพียงแต่ทำให้ห้องดูสกปรก แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ การมีห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวและหายใจไม่สะดวกได้
หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาห้องฝุ่นเยอะมาก บทความนี้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้มีคำแนะนำและวิธีการกำจัดฝุ่นในห้องอย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกัน เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศที่สะอาดและสดชื่นยิ่งขึ้น
ฝุ่นในห้องเกิดจากอะไร มาจากไหน?
ฝุ่นในห้องไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่ง แต่เป็นการผสมผสานของอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กจากหลากหลายแหล่ง ทั้งภายในและภายนอกบ้าน การเข้าใจถึงที่มาของฝุ่นจะช่วยให้คุณสามารถจัดการและลดปริมาณฝุ่นในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1. ฝุ่นในห้องจากด้านนอกบ้าน
ฝุ่นละอองจากภายนอกบ้านสามารถเข้ามาในห้องได้หลายทาง เช่น การเปิดประตูหน้าต่าง การระบายอากาศ หรือแม้แต่การติดมากับเสื้อผ้าและรองเท้า ฝุ่นเหล่านี้มักประกอบด้วยละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นดิน ทราย และมลพิษจากท้องถนนนั่นเอง
2. ชุดเครื่องนอน
เครื่องนอน เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม จัดเป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี รวมทั้งเศษใยผ้าจากเครื่องนอนจะหลุดลอกออกมาและกลายเป็นฝุ่นร่วมด้วย นอกจากนี้เครื่องนอนก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของไรฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการภูมิแพ้อีกด้วย
3. เฟอร์นิเจอร์โซฟา
โซฟา โดยเฉพาะโซฟาผ้า ถือเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเศษผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยฝุ่นเหล่านี้มักสะสมอยู่ตามซอกมุมและรอยตะเข็บของโซฟา
4. ตุ๊กตา
ตุ๊กตา โดยเฉพาะตุ๊กตาผ้า ก็เป็นอีกแหล่งสะสมของฝุ่นและไรฝุ่น เนื่องจากมีขนและใยผ้าเป็นจำนวนมาก
5. ฝุ่นจากผ้าม่านและพรมปูพื้น
ผ้าม่านและพรมปูพื้น ถือเป็นแหล่งสะสมฝุ่นขนาดใหญ่ โดยฝุ่นมักจะเกาะติดอยู่ตามเส้นใยของผ้าและพรม ทำให้ทำความสะอาดได้ยาก
6. หนังสือสมุด
อีกหนึ่งแหล่งสะสมของฝุ่นในบ้าน ก็คือพวกหนังสือต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะสะสมฝุ่นแล้วยังสะสมเชื้อราได้ง่ายอีกด้วย โดยฝุ่นมักจะเกาะติดอยู่ตามหน้ากระดาษและสันหนังสือนั่นเอง
7. เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลม
เครื่องปรับอากาศและพัดลม ก็สามารถเป็นแหล่งแพร่กระจายฝุ่นได้เช่นกัน หากไม่ได้ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ ฝุ่นจะสะสมอยู่บนแผ่นกรองและอาจถูกพัดพาออกมาพร้อมกับลม กระจายไปตามทั่วบริเวณบ้านได้
8. วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง
วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง เช่น ปูนซีเมนต์ สีทาบ้าน และวอลล์เปเปอร์ ล้วนสามารถปล่อยฝุ่นละอองออกมาได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อสร้างหรือปรับปรุงบ้าน
9. จากสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว ก็ถือเป็นแหล่งที่มาของฝุ่นได้ เนื่องจากขนสัตว์และรังแคมักจะหลุดลอกออกมาและกลายเป็นฝุ่น นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงยังอาจนำฝุ่นจากภายนอกบ้านเข้ามาในห้องได้อีกด้วย
วิธีกำจัดฝุ่นลดฝุ่นในห้องต่างๆ
ปัญหาฝุ่นเยอะมากในห้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว สามารถจัดการได้ด้วยการทำความสะอาดและจัดระเบียบอย่างถูกวิธี เพื่อให้ห้องของคุณสะอาดและมีอากาศบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยวิธีการจัดการฝุ่นดังนี้
วิธีจัดการฝุ่นในห้องนอนให้สะอาด
- ด้วยการทำความสะอาดเครื่องนอน โดยซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และนำที่นอนออกไปตากแดดเป็นประจำ
- จัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ และทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง
- ใช้ เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองฝุ่นและไรฝุ่นในอากาศ ทำให้ห้องนอนมีอากาศที่สะอาดขึ้น
- ดูดฝุ่นใต้เตียง ซึ่งเป็นแหล่งสะสมฝุ่น โดยควรดูดฝุ่นใต้เตียงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
จัดการบ้านเพื่อลดฝุ่นในห้องนั่งเล่น
- ทำความสะอาดโซฟา โดยดูดฝุ่นบนโซฟาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และทำความสะอาดโซฟาผ้าด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงสำหรับเฟอร์นิเจอร์
- จัดระเบียบหนังสือและของตกแต่งบนชั้นวางของ และเช็ดทำความสะอาดฝุ่นเป็นประจำ
- เลือกใช้ผ้าม่านที่ทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าใยสังเคราะห์
- ดูดฝุ่นบนพรมอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และนำพรมออกไปตากแดดเป็นประจำ
เคล็ดลับจัดการฝุ่นในห้องน้ำ
- เช็ดทำความสะอาดอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นห้องน้ำเป็นประจำ
- เปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมดูดอากาศ เพื่อระบายความชื้นและป้องกันเชื้อรา
- ซักผ้าม่านอาบน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้ง
- จัดระเบียบของใช้ในห้องน้ำให้เป็นระเบียบ และเช็ดทำความสะอาดฝุ่นเป็นประจำ
วิธีกำจัดฝุ่นในห้องครัว
- เช็ดทำความสะอาดเคาน์เตอร์ครัว ตู้เย็น และเตาอบเป็นประจำ
- ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องดูดควันอย่างน้อยเดือนละครั้ง
- ทิ้งขยะทุกวัน เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นและแมลง
วิธีลดฝุ่นในห้องกินข้าว
- เช็ดทำความสะอาดโต๊ะอาหารและเก้าอี้หลังใช้งานทุกครั้ง
- ซักผ้าปูโต๊ะอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- จัดระเบียบจาน ชาม และช้อนส้อมในตู้เก็บจาน และเช็ดทำความสะอาดฝุ่นเป็นประจำ
- กวาดและถูพื้นห้องกินข้าวทุกวัน เพื่อกำจัดเศษอาหารและฝุ่น
15 วิธีการป้องกันฝุ่นใน
-
ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งรวมถึงฝุ่นละออง ไรฝุ่น และละอองเกสรดอกไม้ ทำให้ห้องมีอากาศที่สะอาดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ
-
ใช้ผ้าทำความสะอาดไมโครไฟเบอร์ ที่มีเส้นใยขนาดเล็กที่สามารถดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ดีกว่าผ้าธรรมดา โดยไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย เหมาะสำหรับการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ในบ้าน
-
ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA ช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อาจหลุดรอดจากเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป ทำให้มั่นใจได้ว่าฝุ่นจะไม่ฟุ้งกระจายกลับเข้าไปในอากาศ
-
ใช้ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนที่ผลิตจากวัสดุที่มีเส้นใยทอแน่น ช่วยป้องกันไรฝุ่นไม่ให้เข้าไปอาศัยอยู่บนที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมไรฝุ่นที่สำคัญ
-
ควรเลือกผ้าม่านที่ทำจากวัสดุที่ไม่เก็บฝุ่น เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าใยสังเคราะห์ และหลีกเลี่ยงผ้าม่านที่มีขนหรือลูกไม้ ซึ่งมักจะสะสมฝุ่นได้ดี
-
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวเรียบ เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ หนัง หรือพลาสติก จะเก็บฝุ่นน้อยกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวขรุขระหรือมีซอกมุมมาก
-
เลือกใช้พรมที่สามารถซักทำความสะอาดได้ง่าย
-
ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดซับสารพิษและฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้อากาศในห้องสะอาดขึ้น เช่น ต้นลิ้นมังกร ต้นเศรษฐีเรือนใน หรือต้นพลูด่าง
-
เลือกใช้ตู้แบบมีบานประตู ช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปเกาะบนสิ่งของที่อยู่ภายในตู้ ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
-
เลือกใช้ของใช้ในห้องน้ำที่ทำจากวัสดุที่ทนต่อความชื้น เช่น พลาสติก หรือสแตนเลส เพื่อป้องกันเชื้อราและฝุ่นละออง
-
ใช้ผ้าคลุมโซฟาที่สามารถถอดซักได้ เพื่อช่วยป้องกันฝุ่นและคราบสกปรกบนโซฟา อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
-
จัดเก็บภาชนะให้ปิดมิดชิด เพื่อช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปเกาะบนสิ่งของที่อยู่ภายในภาชนะ
-
ใช้อุปกรณ์ควบคุมความชื้น เพื่อช่วยควบคุมระดับความชื้นในห้องให้เหมาะสม แถมยังช่วยป้องกันเชื้อราและไรฝุ่นได้อีกด้วย
-
เลือกใช้ถังขยะที่ปิดสนิท เพื่อช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นและแมลง รวมทั้งป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ฟุ้งกระจาย
-
เลือกใช้ชั้นวางรองเท้าหรือตู้รองเท้าแบบปิด จะช่วยป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกจากรองเท้าไม่ให้ฟุ้งกระจายในห้อง
รวมวิธีที่ไม่ควรทำเมื่อกำจัดฝุ่นในห้องที่บ้าน
ทั้งนี้ในการจัดการฝุ่นในบ้าน ก็อาจมีพฤติกรรมในการทำความสะอาดบางอย่างที่อาจทำให้ฝุ่นกระจาย ซึ่งควรหลีกเลี่ยง ดังนี้
- การปัดฝุ่นโดยไม่ใช้ผ้าชุบน้ำ จะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง แทนที่จะกำจัดออกไปได้ ดังนั้นจึงควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดฝุ่น จะช่วยดักจับฝุ่นได้ดีกว่า
- การใช้ไม้กวาดขนไก่ จะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปในอากาศ และกลับมาเกาะตามพื้นผิวต่าง ๆ อีกครั้ง แนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดฝุ่นแทนจะดีกว่า
- การไม่ทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น หากใช้เครื่องดูดฝุ่นที่เต็มไปด้วยฝุ่น จะทำให้ฝุ่นยิ่งฟุ้งกระจายกลับออกมาในอากาศ ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่น หรือกล่องเก็บฝุ่นของเครื่องดูดฝุ่นเป็นประจำ
- การละเลยการทำความสะอาดเครื่องนอน เนื่องจากเครื่องนอนเป็นแหล่งสะสมไรฝุ่นและฝุ่นละอองชั้นดี จึงควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และนำที่นอนออกไปตากแดดเป็นประจำ
ฝุ่นอันตรายต่อสุขภาพอย่างไร
เหตุผลที่เราต้องกำจัดฝุ่นให้หมดไปนั่นเป็นเพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กจะสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา ดังนี้
- ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ เนื่องจากฝุ่นละออง ไรฝุ่น และละอองเกสรดอกไม้ จัดเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย ทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม และหายใจลำบาก
- ฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถเข้าไปสะสมในปอด ทำให้เกิดการระคายเคือง และอักเสบ ส่งผลให้เกิดโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้
- ฝุ่นละอองขนาดเล็กยังสามารถเข้าสู่กระแสเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย
- ฝุ่นละอองบางชนิดมีสารก่อมะเร็ง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอดได้
- มากไปกว่านั้นฝุ่นละอองยังสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและดวงตา ทำให้เกิดอาการคัน แดง และแสบร้อนได้
ดังนั้นการกำจัดฝุ่นออกจากบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัวนั่นเอง
บทสรุป วิธีกำจัดฝุ่นในห้อง
ฝุ่นในห้องเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญและส่งผลเสียต่อสุขภาพ การกำจัดฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้เลยได้รวบรวมวิธีกำจัดฝุ่นในห้องให้อยู่หมัดที่สามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง ตามวิธีดังข้างต้นมาฝากกัน เพื่อให้อากาศภายในบ้านของคุณสะอาดและดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดจากฝุ่นละอองในระยะยาวได้อีกด้วยนั่นเอง