กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับ “บ้านสไตล์มินิมอล” อยู่ใช่ไหม? อย่างบ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น, ชั้นเดียว แล้วกำลังสงสัยใช้ไหมว่าบ้านสไตล์นี้คืออะไร? ภายในเป็นแบบไหน? มีจุดเด่นยังไงบ้าง? และจะตกแต่งอย่างไรให้ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์? แล้วบ้านแบบนี้เหมาะกับใครบ้าง?
บทความนี้ Frasers Property จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแนวคิดของบ้านมินิมอล ว่าทำไมถึงกลายเป็นที่นิยม พร้อมเผยข้อดีที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักในความเรียบง่าย ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความสบายใจในการอยู่อาศัย
รู้จัก! บ้านสไตล์มินิมอล
บ้านสไตล์มินิมอล (Minimalist-style-house) คือ การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เน้นความเรียบง่าย ลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไปให้เหลือน้อยที่สุด โดยยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและสวยงาม หัวใจสำคัญของสไตล์นี้คือ "Less is More" หรือ "น้อยแต่มาก" ซึ่งหมายถึงการสร้างพื้นที่ที่สงบ โล่ง โปร่งสบายตา สะอาดตา และเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ การออกแบบนี้มักจะใช้เส้นสายที่ตรงไปตรงมา รูปทรงเรขาคณิต และการเลือกใช้วัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและไร้ความยุ่งเหยิง
ทำไมบ้านสไตล์มินิมอลถึงกลายเป็นสไตล์บ้านที่นิยมในสมัยนี้?
นั่นเป็นเพราะบ้านสไตล์นี้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเรียบง่ายและสงบหลังจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบได้ โดยเน้นพื้นที่โปร่งโล่ง การจัดเก็บที่เป็นระเบียบ และการลดสิ่งของที่ไม่จำเป็น ช่วยลดความวุ่นวายและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ด้วยการเลือกใช้ของคุณภาพดี ใช้ได้นานและไม่ฟุ่มเฟือย ทั้งยังดูแลรักษาง่ายและประหยัดงบประมาณ จึงกลายเป็นสไตล์ที่ทั้งสวย ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่อย่างลงตัว
ข้อดีของบ้านสไตล์ Minimal มีอะไรบ้าง?
บ้านสไตล์มินิมอลมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น
-
ความเรียบง่ายที่สง่างาม โดยการลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้บ้านดูสะอาดตา ไม่ซับซ้อน แต่ยังคงความสวยงามและมีสไตล์ที่เหนือกาลเวลา
-
สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ด้วยการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อยชิ้น และการเน้นแสงธรรมชาติ ช่วยให้บ้านดูไม่อึดอัดและรู้สึกผ่อนคลาย
-
ดูแลรักษาง่าย เพราะการมีสิ่งของน้อยชิ้นและการออกแบบที่เรียบง่าย ทำให้การทำความสะอาดและดูแลรักษาบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายและใช้เวลาน้อยลง
-
ประหยัดงบประมาณ โดยการเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ และการลดทอนของตกแต่งที่ไม่จำเป็น ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านได้ในระยะยาว
-
บ้านสไตล์มินิมอลกระตุ้นให้ผู้อยู่อาศัยจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะความรกจะเห็นได้ชัดเจนในพื้นที่ที่เรียบง่าย
-
การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความยุ่งเหยิงและสิ่งรบกวน จะช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และลดความเครียดได้
บ้านสไตล์ Minimal เหมาะกับใครบ้าง?
บ้านสไตล์มินิมอลเหมาะกับบุคคลและครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการดังต่อไปนี้
-
เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและเป็นระเบียบ
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความเครียดและเพิ่มความสงบ เพราะการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสิ่งรบกวน จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมีสมาธิมากขึ้น
-
เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เพราะสไตล์มินิมอลจะช่วยให้การใช้พื้นที่ขนาดเล็กเกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้บ้านดูกว้างขวางและไม่อึดอัด
-
เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งาน โดยไม่ต้องมีรายละเอียดหรือของตกแต่งที่ไม่จำเป็น
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาในการดูแลรักษาบ้าน เพราะการมีของน้อยชิ้นและการออกแบบที่เรียบง่าย ทำให้การทำความสะอาดและบำรุงรักษาเป็นเรื่องง่าย
-
เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ต้องการเลือกซื้อสิ่งของที่มีคุณภาพ ใช้งานได้นาน และลดการบริโภคที่ไม่จำเป็น
ลักษณะการตกแต่งที่สื่อถึงเป็นบ้านสไตล์ Minimal
การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลมีองค์ประกอบหลักที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่เรียบง่าย โปร่งสบาย และใช้งานได้จริง ซึ่งโดดส่วนใหญ่แล้วมักจะตกแต่งตามลักษณะดังนี้
1. เน้นความเรียบง่าย
เน้นความเรียบง่ายและเส้นสายที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน เน้นรูปทรงเรขาคณิตเป็นหลัก หลีกเลี่ยงลวดลายหรือการแกะสลักที่ฟุ่มเฟือย
2. ใช้สิ่งที่เรียบง่าย
มักใช้สีขาว ครีม เทา เบจ หรือสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เพื่อสร้างความรู้สึกสงบ อบอุ่น และสบายตา อาจมีสีดำหรือสีเข้มเข้ามาช่วยสร้างจุดตัดเล็กน้อย
3. ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่เปี่ยมฟังก์ชันที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก รูปแบบเรียบง่าย ไม่มีการตกแต่งเกินจำเป็น และมักเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณสมบัติ 2-in-1
4. ใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น
นิยมใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่น ไม้จริง คอนกรีตขัดมัน หิน ผ้าฝ้าย หรือลินิน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
5. ใช้แสงธรรมชาติช่วยแต่ง
เน้นการใช้แสงธรรมชาติให้เข้ามาในบ้านได้มากที่สุด ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ประตูเลื่อนกระจก เพื่อให้บ้านดูโปร่ง โล่งสบายตา
6. จัดเก็บให้เป็นระเบียบ
เน้นการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ โดยการซ่อนสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้ในที่เก็บมิดชิด เช่น ตู้บิลท์อิน ชั้นวางของแบบมีบานปิด เพื่อให้พื้นที่ดูไม่รกและสะอาดตาอยู่เสมอ
7. ตกแต่งน้อยชิ้น
ใช้ของตกแต่งน้อยชิ้น แต่เป็นชิ้นที่มีคุณค่าทางใจ หรือเป็นงานศิลปะที่ช่วยสร้างจุดโฟกัสให้กับห้อง โดยไม่ทำให้ห้องดูแน่นเกินไป
รูปแบบการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล มีแบบไหนบ้าง?
สไตล์มินิมอลนั้นสามารถผสมผสานกับแนวคิดการออกแบบอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดรูปแบบย่อย ๆ ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ
1. บ้านสไตล์มินิมอล เกาหลี
บ้านสไตล์มินิมอลเกาหลีโดดเด่นด้วยความอบอุ่นและนุ่มนวล เน้นการใช้โทนสีอบอุ่น อย่างสีเบจ สีขาวครีม และสีไม้โทนอ่อน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสบายตา เฟอร์นิเจอร์มักเป็นรูปทรงโค้งมน หรือมีดีไซน์ที่ดูเป็นมิตร ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้เนื้ออ่อนและผ้าฝ้าย การจัดวางจะคำนึงถึงแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในบ้าน การใช้ผ้าม่านโปร่งบาง และการตกแต่งด้วยของใช้กระจุกกระจิกที่มีความหมาย เช่น เซรามิกน่ารัก ๆ ต้นไม้เล็ก ๆ หรือภาพวาดโทนสีอ่อน เพื่อเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง
2. บ้านสไตล์มินิมอลโมเดิร์น
บ้านสไตล์มินิมอลโมเดิร์นเป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายของมินิมอลเข้ากับความทันสมัยของโมเดิร์น เน้นเส้นสายที่คมชัดตรงไปตรงมา และรูปทรงเรขาคณิตที่ดูสะอาดตา โทนสีที่ใช้มักเป็นสีขาว เทา ดำ เป็นหลัก อาจมีการใช้คอนกรีตเปลือย หรือเหล็กเข้ามาเป็นองค์ประกอบ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งจะมีดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานสูง และมักเป็นแบบบิลท์อินเพื่อความกลมกลืนกับพื้นที่ และเน้นการใช้แสงสว่างทั้งธรรมชาติและจากหลอดไฟ เพื่อสร้างมิติและความรู้สึกโอ่โถงให้กับพื้นที่
3. บ้านสไตล์นอร์ดิกมินิมอล
บ้านสไตล์นอร์ดิกมินิมอลดึงเอาจุดเด่นของทั้งสองสไตล์มารวมกัน คือ ความเรียบง่ายของมินิมอลและความอบอุ่นของสไตล์นอร์ดิกที่เน้นธรรมชาติ การออกแบบจะคำนึงถึงแสงธรรมชาติเป็นพิเศษ ด้วยหน้าต่างบานใหญ่และพื้นที่เปิดโล่ง ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้โทนอ่อน ผ้าขนสัตว์ หรือหนัง โทนสีมักเป็นสีขาว เทาอ่อน และสีไม้ เฟอร์นิเจอร์มีดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่เน้นประโยชน์ใช้สอยและงานฝีมือคุณภาพดี อาจมีการเพิ่มความอบอุ่นด้วยพรมหนานุ่ม หรือต้นไม้ประดับภายในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สบาย ๆ และเป็นกันเอง
4. บ้านสไตล์มินิมอลมูจิ
บ้านสไตล์มินิมอลมูจิได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์ Muji ของญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุธรรมชาติ การออกแบบสไตล์นี้จะใช้สีขาวและสีไม้โทนอ่อนเป็นหลัก สร้างบรรยากาศที่สงบและอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์และของใช้ทุกชิ้นจะถูกเลือกด้วยความพิถีพิถัน เน้นคุณภาพ วัสดุที่ยั่งยืน และดีไซน์ที่เรียบง่ายไร้โลโก้หรือการปรุงแต่งที่ไม่จำเป็น ภายในบ้านมีการจัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยังคงเข้าถึงง่าย มีการใช้กล่องเก็บของหรือตะกร้าจากวัสดุธรรมชาติเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
5. บ้านไม้สไตล์มินิมอล
บ้านไม้สไตล์มินิมอลเป็นการนำความเรียบง่ายของมินิมอลมาผสานกับเสน่ห์ของไม้จริง การออกแบบจะเน้นโครงสร้างที่ดูสะอาดตา ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักทั้งภายนอกและภายใน อาจเป็นไม้สีอ่อนเพื่อให้บ้านดูโปร่ง หรือไม้สีเข้มเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์จะเลือกแบบที่เรียบง่าย กลมกลืนกับลายไม้ธรรมชาติ มีการเปิดรับแสงธรรมชาติ และการจัดวางที่คำนึงถึงพื้นที่ว่างเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้บ้านไม้ดูทันสมัยและไม่อึดอัด
6. บ้านสไตล์มินิมอล ญี่ปุ่น
บ้านสไตล์มินิมอลญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากปรัชญาเซนที่เน้นความสงบ ความสมดุล และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เน้นพื้นที่ว่าง มีความโปร่งโล่ง และมีการไหลเวียนของอากาศที่ดี ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ไผ่ และกระดาษสา โทนสีมักเป็นสีกลาง ๆ อย่างสีขาว สีเทาอ่อน และสีไม้ ใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งที่มีรูปทรงที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ซ่อนอยู่ และมักมีขนาดกะทัดรัด รวมถึงมีการจัดสวนหิน หรือการนำต้นไม้มาตกแต่งภายในบ้านเพื่อเสริมบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่น
7. บ้านสไตล์มินิมอล โคซี่
บ้านสไตล์มินิมอลโคซี่ (Cozy Minimal) เน้นความเรียบง่าย แต่เพิ่มมิติของความอบอุ่นและสบาย ๆ เข้าไป มีการออกแบบที่ยังคงความเป็นมินิมอลด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นและโทนสีกลาง ๆ แต่จะเพิ่มความรู้สึก "โคซี่" หรืออบอุ่น น่าอยู่ ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีพื้นผิวสัมผัสที่นุ่มนวล เช่น ผ้าขนสัตว์ ผ้าถัก พรมเนื้อนุ่ม หรือหมอนอิงที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ และอาจมีการใช้แสงวอร์มไวท์ (Warm White) เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และมีการจัดวางของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง เช่น เทียนหอม หรือภาพถ่าย
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่างบ้านสไตล์ Minimal กับสไตล์อื่น ๆ
นี่คือตารางสรุปความแตกต่างของบ้านแต่ละสไตล์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความโดดเด่นของบ้านสไตล์ยอดนิยมอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
หัวข้อ | สไตล์มินิมอล | สไตล์ลักชัวรี่ | สไตล์สแกนดิเนเวียน | สไตล์ลอฟท์ | สไตล์โมเดิร์นมินิมอล |
แนวคิดหลัก | น้อยแต่มาก เรียบง่าย ใช้งานได้จริง | หรูหรา สง่างาม แสดงฐานะ | อบอุ่น เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ | ดิบ เท่ เปิดเผยวัสดุจริง | เรียบหรู ผสมผสานฟังก์ชันและดีไซน์ |
วัสดุที่ใช้ | ไม้ คอนกรีต อิฐสีอ่อน | หินอ่อน กระจก โลหะเงา | ไม้ ผ้าลินิน หวาย | ปูนเปลือย เหล็ก อิฐโชว์แนว | คอนกรีต ไม้ กระจก โลหะเรียบหรู |
โทนสี | ขาว เทา น้ำตาลอ่อน | ดำ ทอง เทาดาร์ก | ขาว ครีม น้ำตาลธรรมชาติ | เทาเข้ม ดำ น้ำตาลดิบ | ขาว เทา ดำ น้ำตาลเรียบ |
เฟอร์นิเจอร์ | เรียบง่าย ใช้น้อยแต่ตอบโจทย์ | ดีไซน์หรูหรา มีรายละเอียด | ดีไซน์น้อยชิ้น เน้นอบอุ่นสบาย | หนักแน่น เท่ เน้นวัสดุที่ชัดเจน | รูปทรงโมเดิร์น เรียบแต่หรู ใช้งานได้จริง |
ของตกแต่ง | น้อยชิ้น คุมโทน เรียบ | จัดเต็ม หรูหรา เช่น โคมไฟคริสตัล งานศิลป์ | งานไม้ งานแฮนด์เมด ของตกแต่งน้อยแต่มีเรื่องราว | เหล็กดิบ ของวินเทจ โปสเตอร์กราฟิก | ของตกแต่งน้อย มีดีไซน์เรียบหรู |
บรรยากาศ | สงบ โปร่ง โล่ง สบายตา | หรูหรา ภูมิฐาน อลังการ | อบอุ่น สบายตา เป็นธรรมชาติ | อาร์ต ดิบ เท่ มีสไตล์ | สงบ ทันสมัย มีดีเทลซ่อนอยู่ |
การจัดเก็บ | ซ่อนเก็บในตู้บิลต์อินหรือชั้นลับตา | ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบหรูหราแต่ซ่อนฟังก์ชัน | ชั้นวางไม้ ตะกร้าหวาย เรียบแต่ใช้งานได้จริง | ชั้นเหล็ก ชั้นลอย ตู้เปิดโชว์ | บิลต์อินเรียบหรู ใช้พื้นที่คุ้มค่า |
แชร์! 8 เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมอล สำหรับคนงบน้อย
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงเสมอไป คุณสามารถสร้างบรรยากาศที่เรียบง่ายและอบอุ่นได้ด้วยเทคนิคเหล่านี้
1. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น
หัวใจสำคัญของสไตล์มินิมอล คือ การลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้นที่ตอบโจทย์การใช้งานหลัก ๆ ก็เพียงพอแล้ว โดยเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย เช่น โซฟาที่สามารถปรับเป็นที่นอนได้ หรือโต๊ะกาแฟที่มีช่องเก็บของในตัว วิธีนี้ช่วยประหยัดงบประมาณและทำให้พื้นที่ดูโล่งโปร่งสบายมากยิ่งขึ้น
2. ตกแต่งไปทีละห้อง
แทนที่จะพยายามตกแต่งทั้งบ้านพร้อมกัน ให้เริ่มต้นจากห้องที่สำคัญที่สุดก่อน เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนหลัก โดยค่อย ๆ เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่จำเป็นทีละชิ้น การทำเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ไตร่ตรองและเลือกสิ่งของที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์ของคุณอย่างแท้จริง
3. แสงสว่างจากธรรมชาติ
แสงธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บ้านสไตล์มินิมอลดูโปร่งและสว่างสดใส แนะนำให้พยายามเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อรับแสงให้ได้มากที่สุดในช่วงกลางวัน หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านหนาทึบ หรือเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งบางเพื่อให้แสงผ่านเข้ามาได้ อีกทั้งการใช้แสงธรรมชาติยังไม่เพียงช่วยประหยัดค่าไฟ แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
4. การเลือกโทนสี
เลือกใช้โทนสีกลาง ๆ เช่น สีขาว ครีม เทาอ่อน หรือสีเบจ เป็นสีหลักสำหรับผนังและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ สีเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ยังช่วยให้บ้านดูสะอาดตาและสงบเรียบร้อย โดยคุณสามารถเพิ่มความน่าสนใจด้วยการใช้สีพาสเทลอ่อน ๆ หรือสีไม้ธรรมชาติเข้ามาเป็นองค์ประกอบเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ห้องดูจืดชืดจนเกินไป
5. เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้
เฟอร์นิเจอร์ไม้โทนอ่อนหรือโทนกลางเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับสไตล์มินิมอล เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ และเข้ากับโทนสีกลาง ๆ ได้ง่าย การเลือกใช้ไม้จริงหรือวัสดุทดแทนไม้ที่มีคุณภาพดี จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และไม่ตกยุค ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
6. เพิ่มต้นไม้ประดับให้มีพื้นที่สีเขียว
การเพิ่มต้นไม้ประดับขนาดเล็กหรือขนาดกลางเข้าไปในห้อง จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและมีชีวิตชีวาให้กับบ้านสไตล์มินิมอลได้เป็นอย่างดี แนะนำให้เลือกต้นไม้ที่มีใบเรียบง่าย ไม่ต้องมีดอกสีฉูดฉาดมากนัก เช่น มอนสเตอร่า ลิ้นมังกร หรือยางอินเดีย การจัดวางต้นไม้เพียงไม่กี่จุดก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างมุมพักสายตาและเชื่อมโยงบ้านกับธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น
7. เหลือพื้นที่ว่างให้ห้อง
หลักการสำคัญของมินิมอล คือ "น้อยแต่มาก" ดังนั้นจึงต้องพยายามจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งโดยเว้นพื้นที่ว่างให้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเติมเต็มทุกมุมของห้อง เพราะการมีพื้นที่ว่าง จะช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายตา ไม่แออัด และทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ในบ้าน
8. หน้าต่างดีไซน์เรียบ
ให้เลือกใช้หน้าต่างที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีลวดลายซับซ้อน หรือขอบหน้าต่างที่หนาเกินไป และเลือกเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ จะช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ และยังช่วยให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นอีกด้วย แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัว ก็สามารถใช้มู่ลี่ไม้สีอ่อน หรือผ้าม่านโปร่งแสงสีขาวหรือสีเบจก็ได้
ข้อเสียของบ้านสไตล์นี้ มีอะไรบ้าง?
แม้ว่าบ้านสไตล์มินิมอลจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียของบ้านสไตล์มินิมอล ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- อาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวหรือขาดความอบอุ่นสำหรับบางคน ด้วยความที่เน้นพื้นที่โล่งและของน้อยชิ้น บางคนอาจรู้สึกว่าบ้านดูเย็นชา หรือขาดความรู้สึกอบอุ่นได้
- การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเป็นหัวใจหลักของสไตล์นี้ หากไม่มีวินัยในการเก็บของหรือชอบสะสมของใช้ต่าง ๆ ก็อาจทำให้บ้านดูรกและไม่เป็นมินิมอลได้
- สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนผ่านของตกแต่ง หรือมีของสะสมจำนวนมาก สไตล์มินิมอลอาจไม่ตอบโจทย์
- การใช้โทนสีที่จำกัดและเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายมาก ๆ อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าบ้านดูไม่มีสีสันหรือขาดความแปลกใหม่ ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ง่าย
บ้านสไตล์มินิมอล ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบสะสมสิ่งของ หรือชอบซื้อของเข้าบ้านอยู่เสมอ สไตล์มินิมอลที่เน้นการลดทอนอาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดและไม่สามารถเก็บของได้อย่างที่ต้องการ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบความหลากหลายและสีสันฉูดฉาด
- ไม่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีเด็กเล็กหลายคน อาจเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งในสไตล์มินิมอลที่ต้องการความเนี้ยบอยู่เสมอ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงและหลากหลายมาก เช่น ห้องทำงานหลายห้อง ห้องเก็บของขนาดใหญ่สำหรับงานอดิเรกบางอย่าง สไตล์มินิมอลที่เน้นความกระชับอาจไม่ตอบโจทย์การแบ่งพื้นที่ที่หลากหลายเหล่านั้นได้
บ้านสไตล์มินิมอล ราคาเท่าไหร่
การสร้างหรือตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของบ้าน วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ และความซับซ้อนของงานดีไซน์ หากเน้นการใช้วัสดุพื้นฐานที่มีคุณภาพดี การเลือกเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ใช้งานได้จริง และการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุด จะช่วยควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าการเน้นใช้วัสดุหรูหราหรือเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เนอร์ราคาแพง
อย่างไรก็ตามหากเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและดีไซน์ที่ประณีต สไตล์มินิมอลก็สามารถมีราคาสูงได้เช่นกัน แต่โดยรวมแล้ว แนวคิด "น้อยแต่มาก" มักจะนำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งและบำรุงรักษาในระยะยาวได้มากกว่าการตกแต่งบ้านด้วยสไตล์อื่น ๆ
สรุป
บ้านสไตล์มินิมอล คือ การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ดึงดูดผู้ที่ต้องการความสงบ ความโปร่งโล่ง และการใช้ชีวิตที่มีระเบียบ ซึ่งมีข้อดี คือ การดูแลรักษาง่าย ประหยัดงบประมาณในระยะยาว และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามสไตล์นี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบสะสมสิ่งของ ชอบความหลากหลายของสีสัน หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ การทำความเข้าใจแก่นแท้ของมินิมอลและการปรับใช้เทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสร้างบ้านที่สะท้อนตัวตนและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในความเรียบง่ายของสไตล์มินิมอล หรือต้องการพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ที่เป็นคุณ Frasers Property ก็พร้อมรังสรรค์บ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกพื้นที่ในบ้านเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่แท้จริงของคุณ ติดต่อสอบถามข้อมูลบ้านกับเรา โทร: 1520 หรือทาง Line: @frasershome และ Facebook: Frasers Property Home