รู้จัก! บ้านสไตล์มินิมอล พร้อมเผย 8 เทคนิคตกแต่งบ้านสไตล์นี้

กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับ “บ้านสไตล์มินิมอล” อยู่ใช่ไหม? อย่างบ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น, ชั้นเดียว แล้วกำลังสงสัยใช้ไหมว่าบ้านสไตล์นี้คืออะไร? ภายในเป็นแบบไหน? มีจุดเด่นยังไงบ้าง? และจะตกแต่งอย่างไรให้ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์? แล้วบ้านแบบนี้เหมาะกับใครบ้าง?

บทความนี้ Frasers Property จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแนวคิดของบ้านมินิมอล ว่าทำไมถึงกลายเป็นที่นิยม พร้อมเผยข้อดีที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักในความเรียบง่าย ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความสบายใจในการอยู่อาศัย

รู้จัก! บ้านสไตล์มินิมอล

บ้านสไตล์มินิมอล

บ้านสไตล์มินิมอล (Minimalist-style-house) คือ การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เน้นความเรียบง่าย ลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไปให้เหลือน้อยที่สุด โดยยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและสวยงาม หัวใจสำคัญของสไตล์นี้คือ "Less is More" หรือ "น้อยแต่มาก" ซึ่งหมายถึงการสร้างพื้นที่ที่สงบ โล่ง โปร่งสบายตา สะอาดตา และเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ การออกแบบนี้มักจะใช้เส้นสายที่ตรงไปตรงมา รูปทรงเรขาคณิต และการเลือกใช้วัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและไร้ความยุ่งเหยิง

ทำไมบ้านสไตล์มินิมอลถึงกลายเป็นสไตล์บ้านที่นิยมในสมัยนี้?

นั่นเป็นเพราะบ้านสไตล์นี้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเรียบง่ายและสงบหลังจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบได้ โดยเน้นพื้นที่โปร่งโล่ง การจัดเก็บที่เป็นระเบียบ และการลดสิ่งของที่ไม่จำเป็น ช่วยลดความวุ่นวายและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ด้วยการเลือกใช้ของคุณภาพดี ใช้ได้นานและไม่ฟุ่มเฟือย ทั้งยังดูแลรักษาง่ายและประหยัดงบประมาณ จึงกลายเป็นสไตล์ที่ทั้งสวย ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่อย่างลงตัว

ข้อดีของบ้านสไตล์ Minimal  มีอะไรบ้าง?

ข้อดีของบ้านสไตล์ Minimal

บ้านสไตล์มินิมอลมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น

  1. ความเรียบง่ายที่สง่างาม โดยการลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้บ้านดูสะอาดตา ไม่ซับซ้อน แต่ยังคงความสวยงามและมีสไตล์ที่เหนือกาลเวลา

  2. สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ด้วยการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อยชิ้น และการเน้นแสงธรรมชาติ ช่วยให้บ้านดูไม่อึดอัดและรู้สึกผ่อนคลาย

  3. ดูแลรักษาง่าย เพราะการมีสิ่งของน้อยชิ้นและการออกแบบที่เรียบง่าย ทำให้การทำความสะอาดและดูแลรักษาบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายและใช้เวลาน้อยลง

  4. ประหยัดงบประมาณ โดยการเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ และการลดทอนของตกแต่งที่ไม่จำเป็น ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านได้ในระยะยาว

  5. บ้านสไตล์มินิมอลกระตุ้นให้ผู้อยู่อาศัยจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะความรกจะเห็นได้ชัดเจนในพื้นที่ที่เรียบง่าย

  6. การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความยุ่งเหยิงและสิ่งรบกวน จะช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และลดความเครียดได้

บ้านสไตล์ Minimal เหมาะกับใครบ้าง?

บ้านสไตล์ Minimal เหมาะกับใคร

บ้านสไตล์มินิมอลเหมาะกับบุคคลและครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการดังต่อไปนี้

  1. เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและเป็นระเบียบ

  2. เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความเครียดและเพิ่มความสงบ เพราะการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสิ่งรบกวน จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมีสมาธิมากขึ้น

  3. เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เพราะสไตล์มินิมอลจะช่วยให้การใช้พื้นที่ขนาดเล็กเกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้บ้านดูกว้างขวางและไม่อึดอัด

  4. เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งาน โดยไม่ต้องมีรายละเอียดหรือของตกแต่งที่ไม่จำเป็น

  5. เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาในการดูแลรักษาบ้าน เพราะการมีของน้อยชิ้นและการออกแบบที่เรียบง่าย ทำให้การทำความสะอาดและบำรุงรักษาเป็นเรื่องง่าย

  6. เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ต้องการเลือกซื้อสิ่งของที่มีคุณภาพ ใช้งานได้นาน และลดการบริโภคที่ไม่จำเป็น

ลักษณะการตกแต่งที่สื่อถึงเป็นบ้านสไตล์ Minimal

การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลมีองค์ประกอบหลักที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่เรียบง่าย โปร่งสบาย และใช้งานได้จริง ซึ่งโดดส่วนใหญ่แล้วมักจะตกแต่งตามลักษณะดังนี้

1. เน้นความเรียบง่าย

เน้นความเรียบง่าย

เน้นความเรียบง่ายและเส้นสายที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน เน้นรูปทรงเรขาคณิตเป็นหลัก หลีกเลี่ยงลวดลายหรือการแกะสลักที่ฟุ่มเฟือย

2. ใช้สิ่งที่เรียบง่าย

ใช้สื่งที่เรียบง่าย

มักใช้สีขาว ครีม เทา เบจ หรือสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เพื่อสร้างความรู้สึกสงบ อบอุ่น และสบายตา อาจมีสีดำหรือสีเข้มเข้ามาช่วยสร้างจุดตัดเล็กน้อย

3. ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่เปี่ยมฟังก์ชันที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก รูปแบบเรียบง่าย ไม่มีการตกแต่งเกินจำเป็น และมักเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 

4. ใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น

ใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น

นิยมใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่น ไม้จริง คอนกรีตขัดมัน หิน ผ้าฝ้าย หรือลินิน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

5. ใช้แสงธรรมชาติช่วยแต่ง

ใช้แสงธรรมชาติช่วยแต่ง

เน้นการใช้แสงธรรมชาติให้เข้ามาในบ้านได้มากที่สุด ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ประตูเลื่อนกระจก เพื่อให้บ้านดูโปร่ง โล่งสบายตา

6. จัดเก็บให้เป็นระเบียบ

จัดเก็บให้เป็นระเบียบ

เน้นการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ โดยการซ่อนสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้ในที่เก็บมิดชิด เช่น ตู้บิลท์อิน ชั้นวางของแบบมีบานปิด เพื่อให้พื้นที่ดูไม่รกและสะอาดตาอยู่เสมอ

7. ตกแต่งน้อยชิ้น

ตกแต่งน้อยชิ้น

ใช้ของตกแต่งน้อยชิ้น แต่เป็นชิ้นที่มีคุณค่าทางใจ หรือเป็นงานศิลปะที่ช่วยสร้างจุดโฟกัสให้กับห้อง โดยไม่ทำให้ห้องดูแน่นเกินไป

รูปแบบการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล มีแบบไหนบ้าง?

สไตล์มินิมอลนั้นสามารถผสมผสานกับแนวคิดการออกแบบอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดรูปแบบย่อย ๆ ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ

1. บ้านสไตล์มินิมอล เกาหลี

บ้านสไตล์มินิมอลเกาหลีโดดเด่นด้วยความอบอุ่นและนุ่มนวล เน้นการใช้โทนสีอบอุ่น อย่างสีเบจ สีขาวครีม และสีไม้โทนอ่อน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสบายตา เฟอร์นิเจอร์มักเป็นรูปทรงโค้งมน หรือมีดีไซน์ที่ดูเป็นมิตร ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้เนื้ออ่อนและผ้าฝ้าย การจัดวางจะคำนึงถึงแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในบ้าน การใช้ผ้าม่านโปร่งบาง และการตกแต่งด้วยของใช้กระจุกกระจิกที่มีความหมาย เช่น เซรามิกน่ารัก ๆ ต้นไม้เล็ก ๆ หรือภาพวาดโทนสีอ่อน เพื่อเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง

2. บ้านสไตล์มินิมอลโมเดิร์น

บ้านสไตล์มินิมอลโมเดิร์น

บ้านสไตล์มินิมอลโมเดิร์นเป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายของมินิมอลเข้ากับความทันสมัยของโมเดิร์น เน้นเส้นสายที่คมชัดตรงไปตรงมา และรูปทรงเรขาคณิตที่ดูสะอาดตา โทนสีที่ใช้มักเป็นสีขาว เทา ดำ เป็นหลัก อาจมีการใช้คอนกรีตเปลือย หรือเหล็กเข้ามาเป็นองค์ประกอบ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งจะมีดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานสูง และมักเป็นแบบบิลท์อินเพื่อความกลมกลืนกับพื้นที่ และเน้นการใช้แสงสว่างทั้งธรรมชาติและจากหลอดไฟ เพื่อสร้างมิติและความรู้สึกโอ่โถงให้กับพื้นที่

3. บ้านสไตล์นอร์ดิกมินิมอล

บ้านสไตล์นอร์ดิกมินิมอลดึงเอาจุดเด่นของทั้งสองสไตล์มารวมกัน คือ ความเรียบง่ายของมินิมอลและความอบอุ่นของสไตล์นอร์ดิกที่เน้นธรรมชาติ การออกแบบจะคำนึงถึงแสงธรรมชาติเป็นพิเศษ ด้วยหน้าต่างบานใหญ่และพื้นที่เปิดโล่ง ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้โทนอ่อน ผ้าขนสัตว์ หรือหนัง โทนสีมักเป็นสีขาว เทาอ่อน และสีไม้ เฟอร์นิเจอร์มีดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่เน้นประโยชน์ใช้สอยและงานฝีมือคุณภาพดี อาจมีการเพิ่มความอบอุ่นด้วยพรมหนานุ่ม หรือต้นไม้ประดับภายในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สบาย ๆ และเป็นกันเอง

4. บ้านสไตล์มินิมอลมูจิ

บ้านสไตล์มินิมอลมูจิ

บ้านสไตล์มินิมอลมูจิได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์ Muji ของญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุธรรมชาติ การออกแบบสไตล์นี้จะใช้สีขาวและสีไม้โทนอ่อนเป็นหลัก สร้างบรรยากาศที่สงบและอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์และของใช้ทุกชิ้นจะถูกเลือกด้วยความพิถีพิถัน เน้นคุณภาพ วัสดุที่ยั่งยืน และดีไซน์ที่เรียบง่ายไร้โลโก้หรือการปรุงแต่งที่ไม่จำเป็น ภายในบ้านมีการจัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ยังคงเข้าถึงง่าย มีการใช้กล่องเก็บของหรือตะกร้าจากวัสดุธรรมชาติเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

5. บ้านไม้สไตล์มินิมอล

บ้านไม้สไตล์มินิมอลเป็นการนำความเรียบง่ายของมินิมอลมาผสานกับเสน่ห์ของไม้จริง การออกแบบจะเน้นโครงสร้างที่ดูสะอาดตา ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักทั้งภายนอกและภายใน อาจเป็นไม้สีอ่อนเพื่อให้บ้านดูโปร่ง หรือไม้สีเข้มเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์จะเลือกแบบที่เรียบง่าย กลมกลืนกับลายไม้ธรรมชาติ มีการเปิดรับแสงธรรมชาติ และการจัดวางที่คำนึงถึงพื้นที่ว่างเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้บ้านไม้ดูทันสมัยและไม่อึดอัด

6. บ้านสไตล์มินิมอล ญี่ปุ่น

บ้านสไตล์มินิมอล ญี่ปุ่น

บ้านสไตล์มินิมอลญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากปรัชญาเซนที่เน้นความสงบ ความสมดุล และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เน้นพื้นที่ว่าง มีความโปร่งโล่ง และมีการไหลเวียนของอากาศที่ดี ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ไผ่ และกระดาษสา โทนสีมักเป็นสีกลาง ๆ อย่างสีขาว สีเทาอ่อน และสีไม้ ใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งที่มีรูปทรงที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ซ่อนอยู่ และมักมีขนาดกะทัดรัด รวมถึงมีการจัดสวนหิน หรือการนำต้นไม้มาตกแต่งภายในบ้านเพื่อเสริมบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่น

7. บ้านสไตล์มินิมอล โคซี่

บ้านสไตล์มินิมอลโคซี่ (Cozy Minimal) เน้นความเรียบง่าย แต่เพิ่มมิติของความอบอุ่นและสบาย ๆ เข้าไป มีการออกแบบที่ยังคงความเป็นมินิมอลด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นและโทนสีกลาง ๆ แต่จะเพิ่มความรู้สึก "โคซี่" หรืออบอุ่น น่าอยู่ ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีพื้นผิวสัมผัสที่นุ่มนวล เช่น ผ้าขนสัตว์ ผ้าถัก พรมเนื้อนุ่ม หรือหมอนอิงที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ และอาจมีการใช้แสงวอร์มไวท์ (Warm White) เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และมีการจัดวางของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง เช่น เทียนหอม หรือภาพถ่าย

ตารางสรุปความแตกต่างระหว่างบ้านสไตล์ Minimal กับสไตล์อื่น ๆ    

นี่คือตารางสรุปความแตกต่างของบ้านแต่ละสไตล์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความโดดเด่นของบ้านสไตล์ยอดนิยมอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

หัวข้อ สไตล์มินิมอล สไตล์ลักชัวรี่ สไตล์สแกนดิเนเวียน สไตล์ลอฟท์ สไตล์โมเดิร์นมินิมอล
แนวคิดหลัก น้อยแต่มาก เรียบง่าย ใช้งานได้จริง หรูหรา สง่างาม แสดงฐานะ อบอุ่น เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ ดิบ เท่ เปิดเผยวัสดุจริง เรียบหรู ผสมผสานฟังก์ชันและดีไซน์
วัสดุที่ใช้ ไม้ คอนกรีต อิฐสีอ่อน หินอ่อน กระจก โลหะเงา ไม้ ผ้าลินิน หวาย ปูนเปลือย เหล็ก อิฐโชว์แนว คอนกรีต ไม้ กระจก โลหะเรียบหรู
โทนสี ขาว เทา น้ำตาลอ่อน ดำ ทอง เทาดาร์ก ขาว ครีม น้ำตาลธรรมชาติ เทาเข้ม ดำ น้ำตาลดิบ ขาว เทา ดำ น้ำตาลเรียบ
เฟอร์นิเจอร์ เรียบง่าย ใช้น้อยแต่ตอบโจทย์ ดีไซน์หรูหรา มีรายละเอียด ดีไซน์น้อยชิ้น เน้นอบอุ่นสบาย หนักแน่น เท่ เน้นวัสดุที่ชัดเจน รูปทรงโมเดิร์น เรียบแต่หรู ใช้งานได้จริง
ของตกแต่ง น้อยชิ้น คุมโทน เรียบ จัดเต็ม หรูหรา เช่น โคมไฟคริสตัล งานศิลป์ งานไม้ งานแฮนด์เมด ของตกแต่งน้อยแต่มีเรื่องราว เหล็กดิบ ของวินเทจ โปสเตอร์กราฟิก ของตกแต่งน้อย มีดีไซน์เรียบหรู
บรรยากาศ สงบ โปร่ง โล่ง สบายตา หรูหรา ภูมิฐาน อลังการ อบอุ่น สบายตา เป็นธรรมชาติ อาร์ต ดิบ เท่ มีสไตล์ สงบ ทันสมัย มีดีเทลซ่อนอยู่
การจัดเก็บ ซ่อนเก็บในตู้บิลต์อินหรือชั้นลับตา ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบหรูหราแต่ซ่อนฟังก์ชัน ชั้นวางไม้ ตะกร้าหวาย เรียบแต่ใช้งานได้จริง ชั้นเหล็ก ชั้นลอย ตู้เปิดโชว์ บิลต์อินเรียบหรู ใช้พื้นที่คุ้มค่า

แชร์! 8 เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมอล สำหรับคนงบน้อย

การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงเสมอไป คุณสามารถสร้างบรรยากาศที่เรียบง่ายและอบอุ่นได้ด้วยเทคนิคเหล่านี้

1. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

หัวใจสำคัญของสไตล์มินิมอล คือ การลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้นที่ตอบโจทย์การใช้งานหลัก ๆ ก็เพียงพอแล้ว โดยเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย เช่น โซฟาที่สามารถปรับเป็นที่นอนได้ หรือโต๊ะกาแฟที่มีช่องเก็บของในตัว วิธีนี้ช่วยประหยัดงบประมาณและทำให้พื้นที่ดูโล่งโปร่งสบายมากยิ่งขึ้น

2. ตกแต่งไปทีละห้อง

ตกแต่งไปทีละห้อง

แทนที่จะพยายามตกแต่งทั้งบ้านพร้อมกัน ให้เริ่มต้นจากห้องที่สำคัญที่สุดก่อน เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนหลัก โดยค่อย ๆ เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่จำเป็นทีละชิ้น การทำเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ไตร่ตรองและเลือกสิ่งของที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์ของคุณอย่างแท้จริง

3. แสงสว่างจากธรรมชาติ

แสงสว่างจากธรรมชาติ

แสงธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บ้านสไตล์มินิมอลดูโปร่งและสว่างสดใส แนะนำให้พยายามเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อรับแสงให้ได้มากที่สุดในช่วงกลางวัน หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านหนาทึบ หรือเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งบางเพื่อให้แสงผ่านเข้ามาได้ อีกทั้งการใช้แสงธรรมชาติยังไม่เพียงช่วยประหยัดค่าไฟ แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

4. การเลือกโทนสี

การเลือกโทนสี

เลือกใช้โทนสีกลาง ๆ เช่น สีขาว ครีม เทาอ่อน หรือสีเบจ เป็นสีหลักสำหรับผนังและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ สีเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ยังช่วยให้บ้านดูสะอาดตาและสงบเรียบร้อย โดยคุณสามารถเพิ่มความน่าสนใจด้วยการใช้สีพาสเทลอ่อน ๆ หรือสีไม้ธรรมชาติเข้ามาเป็นองค์ประกอบเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ห้องดูจืดชืดจนเกินไป

5. เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้

เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้

เฟอร์นิเจอร์ไม้โทนอ่อนหรือโทนกลางเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับสไตล์มินิมอล เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ และเข้ากับโทนสีกลาง ๆ ได้ง่าย การเลือกใช้ไม้จริงหรือวัสดุทดแทนไม้ที่มีคุณภาพดี จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และไม่ตกยุค ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

6. เพิ่มต้นไม้ประดับให้มีพื้นที่สีเขียว

เพิ่มต้นไม้ประดับให้มีพื้นที่สีเขียว

การเพิ่มต้นไม้ประดับขนาดเล็กหรือขนาดกลางเข้าไปในห้อง จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและมีชีวิตชีวาให้กับบ้านสไตล์มินิมอลได้เป็นอย่างดี แนะนำให้เลือกต้นไม้ที่มีใบเรียบง่าย ไม่ต้องมีดอกสีฉูดฉาดมากนัก เช่น มอนสเตอร่า ลิ้นมังกร หรือยางอินเดีย การจัดวางต้นไม้เพียงไม่กี่จุดก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างมุมพักสายตาและเชื่อมโยงบ้านกับธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น

7. เหลือพื้นที่ว่างให้ห้อง

เหลือพื้นที่ว่างให้ห้อง

หลักการสำคัญของมินิมอล คือ "น้อยแต่มาก" ดังนั้นจึงต้องพยายามจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งโดยเว้นพื้นที่ว่างให้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเติมเต็มทุกมุมของห้อง เพราะการมีพื้นที่ว่าง จะช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายตา ไม่แออัด และทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ในบ้าน

8. หน้าต่างดีไซน์เรียบ

หน้าต่างดีไซน์เรียบ

ให้เลือกใช้หน้าต่างที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีลวดลายซับซ้อน หรือขอบหน้าต่างที่หนาเกินไป และเลือกเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ จะช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ และยังช่วยให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นอีกด้วย แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัว ก็สามารถใช้มู่ลี่ไม้สีอ่อน หรือผ้าม่านโปร่งแสงสีขาวหรือสีเบจก็ได้

ข้อเสียของบ้านสไตล์นี้ มีอะไรบ้าง?

แม้ว่าบ้านสไตล์มินิมอลจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียของบ้านสไตล์มินิมอล ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้

  1. อาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวหรือขาดความอบอุ่นสำหรับบางคน ด้วยความที่เน้นพื้นที่โล่งและของน้อยชิ้น บางคนอาจรู้สึกว่าบ้านดูเย็นชา หรือขาดความรู้สึกอบอุ่นได้
  2. การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเป็นหัวใจหลักของสไตล์นี้ หากไม่มีวินัยในการเก็บของหรือชอบสะสมของใช้ต่าง ๆ ก็อาจทำให้บ้านดูรกและไม่เป็นมินิมอลได้
  3. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนผ่านของตกแต่ง หรือมีของสะสมจำนวนมาก สไตล์มินิมอลอาจไม่ตอบโจทย์
  4. การใช้โทนสีที่จำกัดและเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายมาก ๆ อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าบ้านดูไม่มีสีสันหรือขาดความแปลกใหม่ ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ง่าย

บ้านสไตล์มินิมอล ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบสะสมสิ่งของ หรือชอบซื้อของเข้าบ้านอยู่เสมอ สไตล์มินิมอลที่เน้นการลดทอนอาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดและไม่สามารถเก็บของได้อย่างที่ต้องการ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบความหลากหลายและสีสันฉูดฉาด
  • ไม่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีเด็กเล็กหลายคน อาจเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งในสไตล์มินิมอลที่ต้องการความเนี้ยบอยู่เสมอ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงและหลากหลายมาก เช่น ห้องทำงานหลายห้อง ห้องเก็บของขนาดใหญ่สำหรับงานอดิเรกบางอย่าง สไตล์มินิมอลที่เน้นความกระชับอาจไม่ตอบโจทย์การแบ่งพื้นที่ที่หลากหลายเหล่านั้นได้

บ้านสไตล์มินิมอล ราคาเท่าไหร่

การสร้างหรือตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของบ้าน วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ และความซับซ้อนของงานดีไซน์ หากเน้นการใช้วัสดุพื้นฐานที่มีคุณภาพดี การเลือกเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ใช้งานได้จริง และการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุด จะช่วยควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าการเน้นใช้วัสดุหรูหราหรือเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เนอร์ราคาแพง 

อย่างไรก็ตามหากเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและดีไซน์ที่ประณีต สไตล์มินิมอลก็สามารถมีราคาสูงได้เช่นกัน แต่โดยรวมแล้ว แนวคิด "น้อยแต่มาก" มักจะนำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งและบำรุงรักษาในระยะยาวได้มากกว่าการตกแต่งบ้านด้วยสไตล์อื่น ๆ

สรุป

บ้านสไตล์มินิมอล คือ การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ดึงดูดผู้ที่ต้องการความสงบ ความโปร่งโล่ง และการใช้ชีวิตที่มีระเบียบ ซึ่งมีข้อดี คือ การดูแลรักษาง่าย ประหยัดงบประมาณในระยะยาว และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามสไตล์นี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบสะสมสิ่งของ ชอบความหลากหลายของสีสัน หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ การทำความเข้าใจแก่นแท้ของมินิมอลและการปรับใช้เทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสร้างบ้านที่สะท้อนตัวตนและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในความเรียบง่ายของสไตล์มินิมอล หรือต้องการพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ที่เป็นคุณ Frasers Property ก็พร้อมรังสรรค์บ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกพื้นที่ในบ้านเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่แท้จริงของคุณ ติดต่อสอบถามข้อมูลบ้านกับเรา โทร: 1520 หรือทาง Line: @frasershome และ Facebook: Frasers Property Home