ผนัง Precast Concrete คืออะไร? เหมาะกับบ้านแบบไหน? ข้อดี - ข้อเสีย

นวัตกรรมผนัง Precast Concrete หรือที่รู้จักกันในชื่อ ผนังสำเร็จรูป Precast คือนวัตกรรมการก่อสร้างที่ปฏิวัติวงการด้วยการผลิตผนังคอนกรีตที่มีความแข็งแรงและได้มาตรฐานจากโรงงาน ก่อนนำมาประกอบที่หน้างาน หลายคนอาจสงสัยว่า ผนัง Precast หนาเท่าไหร่? มีความปลอดภัยหรือไม่? และเหมาะกับบ้านแบบไหน? วันนี้ Frasers Property จะพาไปทำความรู้จักกับผนัง Precast ว่าคืออะไร อย่างละเอียด พร้อมเจาะลึกถึงข้อดีและข้อเสีย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าผนังชนิดนี้เหมาะกับบ้านในฝันของคุณหรือไม่?

ผนัง Precast คืออะไร?

ผนัง Precast คืออะไร

ผนัง Precast Concrete คือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ที่ถูกผลิตขึ้นจากโรงงานด้วยกระบวนการควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน จากนั้นจึงขนส่งมายังหน้างานก่อสร้างเพื่อทำการติดตั้ง แทนที่จะเทคอนกรีต ณ สถานที่ก่อสร้างเหมือนผนังคอนกรีตหล่อทั่วไป ซึ่งการผลิตในโรงงานจะช่วยให้ได้ผนังที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ ลดความผิดพลาด และควบคุมระยะเวลาการก่อสร้างได้ดีกว่านั่นเอง

ผนัง Precast ทำมาจากอะไร?

ผนัง Precast ทำมาจากอะไร

ผนัง Precast ทำมาจากส่วนผสมหลักของคอนกรีต ซึ่งประกอบด้วย

  • ปูนซีเมนต์: เป็นวัสดุประสานที่ทำให้ส่วนผสมทั้งหมดแข็งตัว
  • ทราย: วัสดุผสมละเอียดที่ช่วยเติมช่องว่างและเพิ่มความแข็งแรง
  • หิน/กรวด: วัสดุผสมหยาบที่ช่วยเพิ่มกำลังอัดและความคงทน
  • น้ำ: ใช้ในการทำปฏิกิริยากับปูนซีเมนต์และทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
  • เหล็กเสริม: โดยทั่วไปจะใช้เหล็กเส้นหรือเหล็กกล้าแรงดึงสูงเสริมเข้าไปในเนื้อคอนกรีต เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับแรงดึงและแรงเฉือน ซึ่งคอนกรีตเองไม่สามารถรับแรงเหล่านี้ได้ดี
  • สารผสมเพิ่ม (Admixtures): บางชนิดเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของคอนกรีต เช่น เพิ่มความไหลลื่น ลดการใช้น้ำ หรือเร่ง/หน่วงการแข็งตัว

ส่วนผสมเหล่านี้จะถูกผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสมภายใต้การควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัดในโรงงาน เพื่อให้ได้ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กำหนด    

ผนัง Precast ปลอดภัยหรือไม่?

ผนัง Precast Concrete มีความปลอดภัยสูง หากผลิตและติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนด โดยผู้ผลิตจะมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การผสมคอนกรีต การเสริมเหล็ก ไปจนถึงการบ่มคอนกรีต ทำให้ได้ผนังที่มีกำลังรับน้ำหนักสูง แข็งแรง และทนทาน หากติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการและมีการตรวจสอบโครงสร้างอย่างสม่ำเสมอ ก็ยิ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยในการใช้งานของผนังประเภทนี้มากยิ่งขึ้น

 6 ประโยชน์ของผนัง precast concrete 

  1. ประหยัดเวลาในการก่อสร้าง
    เนื่องจากผนัง Precast Concrete ถูกผลิตและบ่มในโรงงาน ทำให้สามารถนำมาติดตั้งที่หน้างานได้ทันที ลดขั้นตอนและเวลาในการเทคอนกรีต บ่มคอนกรีต และรอให้แข็งตัวเหมือนการก่อสร้างแบบดั้งเดิม ทำให้โครงการแล้วเสร็จเร็วขึ้น

  2. ควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า
    การผลิตในโรงงานภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อมและมาตรฐานที่เข้มงวด ทำให้มั่นใจได้ว่าผนัง Precast Concrete จะมีคุณภาพสม่ำเสมอ มีความแข็งแรง และมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการทำงาน ณ หน้างานได้

  3. ลดต้นทุนแรงงาน
    เมื่อกระบวนการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในโรงงาน ส่งผลให้การติดตั้งที่หน้างานจึงทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลดจำนวนแรงงานที่ต้องใช้ในแต่ละวัน และลดระยะเวลาที่แรงงานต้องอยู่ในไซต์งานได้ ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านค่าแรงโดยรวมได้มากยิ่งขึ้น

  4. ลดของเสียในไซต์งาน
    การผลิตแบบสำเร็จรูปในโรงงาน ช่วยลดปริมาณวัสดุเหลือใช้และของเสียจากการก่อสร้างที่หน้างาน ทำให้ไซต์งานสะอาดเป็นระเบียบมากขึ้น และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการลดขยะได้อีกด้วย

  5. ความแข็งแรงและทนทานสูง
    ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ทำให้ผนัง Precast Concrete มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ แรงกระแทก และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าผนังที่สร้างด้วยวิธีดั้งเดิม

  6. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ในบางแง่มุม)
    เพราะนอกจากจะลดของเสียจากการก่อสร้างแล้ว การผลิตในโรงงานยังช่วยให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดมลภาวะทางเสียงและฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้างได้ดีกว่าการก่อสร้างแบบเทหน้างาน จึงทำให้ Precast Concrete เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในภาพรวม

ผนัง precast concrete ราคาเท่าไหร่?

ผนัง Precast Concrete ราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาด ความหนา การออกแบบ และคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ โดยทั่วไป ราคาของแผ่นผนัง Precast (เฉพาะค่าวัสดุ) อาจเริ่มต้นที่ประมาณ 200 - 500 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งราคานี้อาจสูงขึ้นได้อีกสำหรับแผ่นผนังที่มีคุณสมบัติเฉพาะเจาะจง เช่น กันเสียง กันไฟ หรือมีการฝังท่อและสายไฟมาในตัวจากโรงงาน นอกจากนี้ ยังต้องบวกเพิ่มในส่วนของค่าขนส่งจากโรงงานมายังไซต์งาน และค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ซึ่งรวมถึงค่าใช้เครนและทีมงานผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้วยนั่นเอง

สำหรับการสร้างบ้าน Precast ราคาโดยรวมจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน จำนวนชั้น รูปแบบดีไซน์ รวมถึงงานระบบและงานตกแต่งภายในทั้งหมด แม้ว่าราคาต่อหน่วยของผนัง Precast อาจสูงกว่าผนังที่ก่อด้วยอิฐฉาบปูนในบางกรณี แต่ด้วยข้อได้เปรียบเรื่องความรวดเร็วในการก่อสร้างที่ช่วยลดระยะเวลาและค่าแรงงานโดยรวม รวมถึงคุณภาพที่สม่ำเสมอในการผลิต จึงทำให้ต้นทุนรวมของการสร้างบ้านด้วยระบบ Precast Concrete อาจมีความคุ้มค่าและสามารถแข่งขันกับบ้านที่สร้างด้วยวิธีดั้งเดิมได้ดี โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการสร้างบ้านจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว

5 เรื่องที่ควรรู้ก่อนทำการต่อเติมบ้านด้วยผนังชนิดนี้

การต่อเติมบ้านที่สร้างด้วยผนัง Precast Concrete มีข้อควรระวังและสิ่งที่คุณควรรู้เป็นพิเศษ 5 ข้อ ดังนี้

  1. โครงสร้างผนังเป็นระบบสำเร็จรูป
    ผนัง Precast ถูกออกแบบมาให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนักโดยรวมของบ้าน การตัด เจาะ หรือรื้อถอนผนัง Precast โดยไม่ศึกษาแบบและปรึกษาวิศวกร อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความแข็งแรงของโครงสร้างบ้านทั้งหมดได้

  2. การปรึกษาวิศวกรโครงสร้างและผู้เชี่ยวชาญ
    ก่อนทำการต่อเติม ไม่ว่าจะเป็นการเจาะผนังเพื่อติดตั้งสิ่งของ การทำช่องเปิดเพิ่ม หรือการขยายพื้นที่ ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างและผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างระบบ Precast โดยเฉพาะ เพื่อให้การต่อเติมเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามหลักวิศวกรรม

  3. การวางระบบท่อและสายไฟ
    เนื่องจากผนัง Precast มีความแข็งแรงและเป็นเนื้อเดียวกัน การเดินระบบท่อประปา ท่อระบายน้ำ หรือสายไฟฟ้าภายในผนังมักจะถูกกำหนดตำแหน่งมาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต หากต้องการย้ายตำแหน่งหรือเพิ่มเติมจุดติดตั้ง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการเจาะหรือสกัดอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงสร้างภายในผนัง

  4. ใช้วัสดุและวิธีการที่เหมาะสม
    การต่อเติมผนัง Precast อาจต้องใช้วัสดุและวิธีการยึดเกาะที่แตกต่างจากการก่อผนังอิฐทั่วไป เช่น การใช้พุกหรือสกรูที่ออกแบบมาสำหรับคอนกรีต การเชื่อมต่อโครงสร้างใหม่กับผนังเดิมก็ต้องใช้วิธีที่ถูกต้องเพื่อความแข็งแรงและป้องกันการแตกร้าวในอนาคต

  5. ข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนผังภายใน
    เนื่องจากผนัง Precast มักจะเป็นผนังรับน้ำหนัก (Load-bearing Wall) ซึ่งหมายความว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างหลัก การปรับเปลี่ยนผังห้องโดยการรื้อถอนผนังภายในอาจทำได้ยากหรือมีข้อจำกัดมากกว่าบ้านที่ใช้โครงสร้างเสาคานปกติ ดังนั้นจึงควรพิจารณาความต้องการในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในอนาคตก่อนตัดสินใจเลือกบ้านระบบ Precast

ข้อดีของผนัง Precast มีอะไรบ้าง?

ข้อดีของผนัง Precast Concrete จากที่เราได้ค้นหาข้อมูล เราได้สรุปข้อดีมาไว้ดังนี้

  • ความรวดเร็วในการก่อสร้าง: เป็นจุดเด่นที่สุด เพราะผลิตจากโรงงาน ทำให้การติดตั้งที่หน้างานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และช่วยร่นระยะเวลาก่อสร้างได้มาก
  • ควบคุมคุณภาพได้ดีเยี่ยม: เพราะกระบวนการผลิตในโรงงานภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด จึงทำให้ผนังมีคุณภาพสม่ำเสมอ ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงและเรียบเนียน
  • ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน: เนื่องจากขั้นตอนส่วนใหญ่ทำในโรงงาน ทำให้ลดความจำเป็นในการใช้แรงงานฝีมือจำนวนมากที่หน้างาน
  • ลดของเสียในไซต์งาน: เพราะการผลิตที่โรงงานจะช่วยลดปริมาณวัสดุเหลือใช้และมลภาวะฝุ่นที่หน้างานได้ ทำให้พื้นที่ก่อสร้างสะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น
  • ความแข็งแรงและทนทานสูง: เนื่องจากคอนกรีต Precast มีคุณสมบัติในการรับน้ำหนักและทนทานต่อสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • ลดปัญหาการแตกร้าว: ด้วยการควบคุมคุณภาพและการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้ผนัง Precast มีโอกาสเกิดการแตกร้าวน้อยกว่าผนังที่หล่อในที่หน้างาน
  • ประสิทธิภาพในการเก็บเสียง: คุณสมบัติของคอนกรีตช่วยให้ผนัง Precast มีประสิทธิภาพในการเก็บเสียงและทนทานต่อการลามของไฟได้ดีในระดับหนึ่ง

ข้อเสียของผนัง Precast concrete มีอะไรบ้าง?

  • มีข้อจำกัดในการต่อเติมหรือดัดแปลง: เนื่องจากเป็นโครงสร้างสำเร็จรูปและบางส่วนเป็นผนังรับน้ำหนัก การทุบ เจาะ หรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งผนังอาจทำได้ยากและต้องปรึกษาวิศวกรอย่างรอบคอบ
  • ปัญหาการขนส่งและการติดตั้ง: เพราะแผ่นผนัง Precast มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ทำให้การขนส่งและการยกติดตั้งต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในการก่อสร้างสำหรับบางพื้นที่ได้
  • ราคาเริ่มต้นของผนัง Precast อาจสูง: ในบางกรณีราคาเริ่มต้นของผนัง Precast อาจสูงกว่าการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน แต่เมื่อพิจารณาถึงความรวดเร็วและคุณภาพโดยรวมแล้ว อาจให้ความคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
  • ต้องวางแผนระบบภายในล่วงหน้า: เพราะตำแหน่งการติดตั้งระบบไฟฟ้า ประปา หรือช่องเปิดต่าง ๆ ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตในโรงงาน ทำให้การเปลี่ยนแปลงหน้างานอาจทำได้ยาก

ผนัง Precast เหมาะกับบ้านแบบไหนบ้าง?

ผนัง Precast เหมาะกับบ้านแบบไหน

ผนัง Precast Concrete เหมาะกับบ้านหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  1. บ้านจัดสรรขนาดใหญ่และโครงการทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวที่ต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้างและควบคุมคุณภาพในปริมาณมาก ๆ จะช่วยให้สร้างบ้านได้พร้อมกันหลายยูนิตในเวลาอันสั้น
  2. บ้านที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานสูง เนื่องจากผนัง Precast ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม จึงมีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านที่มั่นคงแข็งแรง
  3. บ้านที่ต้องการลดปัญหาการแตกร้าวของผนัง เพราะผนัง Precast มักจะมีปัญหาการแตกร้าวน้อยกว่าผนังที่ก่อด้วยอิฐ เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ควบคุมคุณภาพมาอย่างดี
  4. ผู้ที่ต้องการความเรียบร้อยของผิวผนัง ซึ่งผนัง Precast มักจะมีผิวที่เรียบเนียนกว่าผนังที่ก่อด้วยอิฐฉาบปูน ทำให้งานตกแต่งภายในทำได้ง่ายขึ้นและลดเวลาในการปรับผิวผนัง

ทั้งนี้บ้านที่ออกแบบโครงสร้างมาเพื่อรองรับการใช้ผนัง Precast ตั้งแต่ต้น จะสามารถดึงศักยภาพและข้อดีของระบบนี้มาใช้ได้อย่างเต็มที่ และลดปัญหาในการก่อสร้างได้ดีที่สุด

เปรียบเทียบผนัง Precast Concrete vs ผนังก่ออิฐฉาบปูน vs ผนังอิฐมวลเบา ต่างกันอย่างไร?

เปรียบเทียบผนัง Precast Concrete vs ผนังก่ออิฐฉาบปูน vs ผนังอิฐมวลเบา ต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติ ผนัง Precast Concrete ผนังก่ออิฐฉาบปูน (อิฐมอญ) ผนังอิฐมวลเบา
ลักษณะการผลิต ผลิตจากโรงงานเป็นแผ่นสำเร็จรูป ก่ออิฐทีละก้อนที่หน้างาน แล้วฉาบปูน ก่ออิฐมวลเบาเป็นก้อนที่หน้างาน แล้วฉาบปูน
ความรวดเร็วในการก่อสร้าง สูงมาก (นำมาประกอบได้ทันที) ปานกลางถึงช้า (ต้องใช้เวลาในการก่อและฉาบ) ปานกลางถึงค่อนข้างเร็ว (ก่อได้เร็วกว่าอิฐมอญ)
การควบคุมคุณภาพ สูงมาก (ผลิตในโรงงานควบคุม) ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับฝีมือช่างและสภาพอากาศ)
ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับฝีมือช่าง)
ความแข็งแรง สูงมาก แข็งแรงสม่ำเสมอ สูง ปานกลางถึงสูง (เบากว่าแต่แข็งแรง)
การแตกร้าว โอกาสเกิดร้าวน้อยกว่า (ควบคุมคุณภาพดี) มีโอกาสแตกร้าวได้ง่ายกว่า (จากการฉาบหรือการทรุดตัว) มีโอกาสแตกร้าวได้น้อยกว่าอิฐมอญ แต่ยังคงมีได้
การกันความร้อน ปานกลางถึงดี (ขึ้นอยู่กับความหนาและประเภทคอนกรีต) ต่ำถึงปานกลาง (อมความร้อน) ดีเยี่ยม (มีฟองอากาศภายใน ลดการนำความร้อน)
การกันเสียง ดีถึงดีมาก (ขึ้นอยู่กับความหนา) ปานกลางถึงดี ปานกลาง
การกันไฟ ดีเยี่ยม (เป็นวัสดุไม่ติดไฟ) ดี (ไม่ติดไฟ) ดี (ไม่ติดไฟ)
ความยืดหยุ่นในการดัดแปลง ต่ำ (ปรับเปลี่ยนยาก ต้องปรึกษาวิศวกร) สูง (ทุบ เจาะ ก่อเพิ่มได้ง่ายกว่า) สูง (ทุบ เจาะ ก่อเพิ่มได้ง่ายกว่า)
น้ำหนักโครงสร้าง สูง สูง (ใกล้เคียงกับ Precast ในบางความหนา) ต่ำ (เบากว่าอิฐมอญและ Precast)
ต้นทุน เริ่มต้นอาจสูงกว่า แต่ลดเวลาก่อสร้างโดยรวม ปานกลาง (ค่าวัสดุและแรงงาน) ปานกลางถึงสูงกว่าอิฐมอญเล็กน้อย
 
ของเสียหน้างาน น้อยมาก ปานกลางถึงสูง ปานกลาง

ผนัง precast เจาะได้ไหม?

ผนัง precast เจาะได้ไหม

ผนัง Precast สามารถเจาะได้ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังและถูกวิธี เนื่องจากผนัง Precast เป็นโครงสร้างที่แข็งแรงและมักมีเหล็กเสริมอยู่ภายใน การเจาะผิดวิธีอาจทำให้ผนังเสียหายหรือกระทบต่อโครงสร้างได้

ข้อแนะนำในการเจาะผนัง Precast

  • ใช้สว่านโรตารี่ (Rotary Hammer Drill) ซึ่งเป็นสว่านที่ออกแบบมาสำหรับการเจาะคอนกรีตโดยเฉพาะ จะมีแรงกระแทกช่วยให้เจาะได้ง่ายขึ้น
  • ใช้ดอกสว่านสำหรับคอนกรีตหรือปูนที่มีปลายแข็งแรง เหมาะสำหรับการเจาะวัสดุแข็ง
  • ระมัดระวังแนวสายไฟและท่อ หากไม่มั่นใจในตำแหน่งของระบบไฟฟ้าหรือประปาที่ฝังในผนัง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเจาะ
  • หลีกเลี่ยงการเจาะตำแหน่งที่เป็นโครงสร้างหลัก เช่น บริเวณมุม หรือรอยต่อของแผ่นผนัง หากจำเป็นต้องเจาะ ควรปรึกษาวิศวกรก่อนดำเนินการ

คำถามที่พบบ่อย

ผนัง Precast ร้าว เกิดจากอะไร? อันตรายไหม?

ผนัง Precast ร้าว เกิดจากอะไร อันตรายไหม

ผนัง Precast ที่ร้าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • การเคลื่อนตัวของโครงสร้าง อย่างการทรุดตัวของฐานราก หรือการเคลื่อนตัวของดิน ทำให้เกิดแรงเค้นบนผนัง
  • หากการเชื่อมต่อระหว่างแผ่นผนังไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดรอยร้าวบริเวณรอยต่อได้
  • การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง การยึดแผ่นผนังที่ไม่แน่นหนาพอ หรือไม่ได้ระดับ
  • การเจาะหรือสกัดผิดวิธีโดยไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกิดรอยร้าวได้
  • หากกระบวนการผลิตคอนกรีตมีปัญหา อาจส่งผลต่อความแข็งแรงได้

แล้วถ้าผนัง Precast ร้าว อันตรายไหม? ถ้าเป็นกรณีรอยร้าวเล็ก ๆ เช่น รอยร้าวลายงา มักไม่อันตราย แต่หากเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ ลึก ทะลุผ่านผนัง หรือร้าวในแนวทแยงมุม อาจบ่งบอกถึงปัญหาโครงสร้างที่รุนแรง แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรอีกครั้ง เพื่อประเมินสถานการณ์และหาทางแก้ไข

ผนัง Precast หนาเท่าไหร่?

ความหนาของผนัง Precast โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10 เซนติเมตร ถึง 20 เซนติเมตร หรืออาจหนาได้มากกว่านั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบและวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น ผนังรับน้ำหนัก ผนังกันเสียง หรือผนังสำหรับอาคารสูง โดยผนัง Precast ในบ้านจัดสรรทั่วไปมักจะมีความหนาประมาณ 10-15 เซนติเมตร

ผนัง Precast ทุบได้ไหม?

โดยหลักการแล้ว ไม่ควรทุบผนัง Precast โดยไม่ปรึกษาวิศวกร เนื่องจากผนัง Precast มักถูกออกแบบมาให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนักของอาคาร (Load-bearing Wall) การทุบหรือรื้อถอนผนังเหล่านี้โดยไม่ถูกต้อง อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างทั้งหมดของบ้านและอาจเป็นอันตรายได้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนจริง ๆ ต้องให้วิศวกรโครงสร้างประเมินและวางแผนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ผนัง Precast ทนแรงแผ่นดินไหวไหม?

ผนัง Precast Concrete มีความสามารถในการทนแรงแผ่นดินไหวได้ดี หากได้รับการออกแบบและติดตั้งตามมาตรฐานทางวิศวกรรมสำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว โดยจะมีการเสริมเหล็กและการเชื่อมต่อระหว่างแผ่นผนังอย่างแข็งแรง เพื่อให้โครงสร้างทำงานร่วมกันและกระจายแรงแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คอนโดที่สร้างด้วยผนัง Precast ปลอดภัยไหม?

คอนโดที่สร้างด้วยผนัง Precast มีความปลอดภัยสูง หากเป็นโครงการที่ได้มาตรฐาน มีการออกแบบโครงสร้างโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และผลิตพร้อมติดตั้งตามหลักวิศวกรรมที่ถูกต้อง กระบวนการผลิต Precast ในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ทำให้ได้ผนังที่ได้มีความแข็งแรงสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยของอาคารนั่นเอง

ผนัง Precast กันเสียงได้เท่าไหร่?

ความสามารถในการกันเสียงของผนัง Precast จะขึ้นอยู่กับความหนาของผนัง และคุณสมบัติของคอนกรีต โดยทั่วไปแล้ว ผนัง Precast ที่มีความหนาตั้งแต่ 10-15 เซนติเมตร สามารถกันเสียงรบกวนได้ดีกว่าผนังอิฐมอญทั่วไป และดีกว่าผนังอิฐมวลเบาในความหนาที่เท่ากัน ทำให้ช่วยลดเสียงจากภายนอกหรือระหว่างห้องได้ในระดับที่ดี

สรุป

ผนัง Precast Concrete เป็นนวัตกรรมการก่อสร้างที่โดดเด่นด้วยความรวดเร็ว คุณภาพที่สม่ำเสมอ และความแข็งแรงทนทาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านและโครงการที่ต้องการมาตรฐานสูงและประหยัดเวลาในการก่อสร้าง ถึงแม้จะมีข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนผังภายในบ้าง แต่ด้วยประโยชน์มากมายที่ได้รับ ทำให้ผนัง Precast เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างบ้านในยุคปัจจุบัน

หากคุณกำลังมองหาบ้านคุณภาพสูงที่สร้างด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด Frasers Property มีโครงการบ้านที่เลือกใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน เพื่อมอบบ้านที่แข็งแรง ปลอดภัย และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน สามารถเข้าชมโครงการบ้านเดี่ยวของเราเพิ่มเติมได้ที่ https://home.frasersproperty.co.th/House