ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกกับดอกเบี้ยคงที่สองรูปแบบการคิดดอกเบี้ยที่คุณต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามีความแตกต่างกันที่จุดใดบ้าง? ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้านหรือสินทรัพย์ใด ๆ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อภาระหนี้ที่คุณจะต้องชำระตลอดอายุสัญญา
เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกข้อมูลสำคัญและได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำสินเชื่อ Frasers Property จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความแตกต่างของดอกเบี้ยทั้งสองประเภทนี้กัน
ทำความเข้าใจ!ความหมายดอกเบี้ยในสินเชื่อ
ดอกเบี้ย คือค่าตอบแทนที่ผู้กู้ต้องจ่ายให้กับผู้ให้กู้ เช่น ธนาคาร เพื่อแลกกับการใช้เงินทุนนั้น ๆ โดยดอกเบี้ยจะถูกคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากเงินต้น และเป็นส่วนหนึ่งของค่างวดที่คุณต้องชำระในแต่ละงวดตลอดระยะเวลาของสัญญาเงินกู้ การทำความเข้าใจวิธีการคำนวณดอกเบี้ยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณประเมินภาระหนี้ที่แท้จริง และวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คืออะไร?
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Reducing Balance Interest Rate) คือวิธีการคำนวณดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวดที่คุณชำระเข้าไป นั่นหมายความว่า ในทุก ๆ ครั้งที่คุณชำระค่างวด เงินส่วนหนึ่งจะถูกนำไปตัดดอกเบี้ย และอีกส่วนหนึ่งจะถูกนำไปตัดเงินต้น ยิ่งเงินต้นลดลงมากเท่าไร ดอกเบี้ยที่ถูกคำนวณในงวดถัดไปก็จะยิ่งลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้สัดส่วนของเงินที่นำไปตัดเงินต้นในค่างวดต่อ ๆ ไปมีมากขึ้น ทำให้หนี้หมดเร็วขึ้นและช่วยให้คุณประหยัดดอกเบี้ยโดยรวมได้มากขึ้น
ดอกเบี้ยคงที่ คืออะไร?
ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate Interest Rate) คือวิธีการคำนวณดอกเบี้ยจากเงินต้นทั้งหมด (หรือยอดกู้ทั้งหมด) ตั้งแต่เริ่มต้นสัญญา และคิดเป็นจำนวนดอกเบี้ยที่เท่ากันตลอดอายุสัญญา ไม่ว่าคุณจะชำระเงินต้นไปแล้วเท่าไรก็ตาม ดอกเบี้ยที่ถูกคำนวณนี้จะถูกรวมเข้าไปกับเงินต้นเพื่อหาค่างวดที่ต้องชำระในแต่ละงวด ทำให้ค่างวดที่จ่ายในแต่ละเดือนมีจำนวนเท่ากันตลอดระยะเวลาของสัญญาเงินกู้ วิธีนี้มักนิยมใช้กับสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ เช่น สินเชื่อรถยนต์ เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มีอะไรบ้าง?
- ประหยัดดอกเบี้ยรวม: นี่คือข้อดีที่โดดเด่นที่สุด เพราะดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากเงินต้นคงเหลือที่ลดลงเรื่อย ๆ หากคุณจ่ายเงินต้นได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่างวดที่สูงกว่าขั้นต่ำ หรือการโปะหนี้ ดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายในงวดถัดไปก็จะลดลง ทำให้จำนวนดอกเบี้ยที่คุณจ่ายตลอดอายุสัญญาลดลงไปได้อย่างมาก
- หนี้หมดเร็วขึ้น: เพราะเมื่อดอกเบี้ยที่ถูกคำนวณในแต่ละงวดลดลง สัดส่วนของเงินที่คุณจ่ายในแต่ละค่างวดจะถูกนำไปตัดเงินต้นได้มากขึ้น ส่งผลให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้น และทำให้คุณสามารถชำระคืนหนี้ได้หมดก่อนกำหนดเวลาเดิมที่วางไว้
- มีความยืดหยุ่นในการชำระ: เช่น หากมีรายได้พิเศษหรือโบนัส คุณก็สามารถนำเงินมาโปะหนี้ ได้โดยตรงเพื่อลดเงินต้น ซึ่งจะส่งผลให้ดอกเบี้ยลดลงทันที
- ค่างวดถูกหักเงินต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ : แม้ในช่วงเริ่มต้นของการผ่อนชำระ เงินส่วนใหญ่ของค่างวดจะถูกนำไปจ่ายดอกเบี้ย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เงินต้นลดลง สัดส่วนของดอกเบี้ยจะลดลง ในขณะที่สัดส่วนของเงินที่นำไปตัดเงินต้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หนี้สินของผู้กู้ลดลงอย่างแท้จริง
ข้อเสียของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มีอะไรบ้าง?
- มีการคำนวณที่ซับซ้อนกว่ามากกว่าดอกเบี้ยแบบคงที่: เนื่องจากต้องมีการคำนวณดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันหรือแต่ละงวด ทำให้ผู้กู้บางรายอาจเข้าใจได้ยาก
- มีความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย: เพราะสินเชื่อบ้านส่วนใหญ่มักใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของตลาด หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ภาระดอกเบี้ยต่อเดือนของผู้กู้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
- ต้องมีวินัยในการบริหารจัดการ: เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลดต้นลดดอก ผู้กู้ควรมีความเข้าใจและมีวินัยในการจ่ายชำระ เช่น การโปะหนี้เมื่อมีเงินก้อน หรือการจ่ายค่างวดที่สูงกว่าขั้นต่ำ หากไม่มีการจัดการที่ดี ผลประโยชน์ในการประหยัดดอกเบี้ยก็จะลดลง
ข้อดีและข้อเสียของดอกเบี้ยคงที่ มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของดอกเบี้ยคงที่ มีอะไรบ้าง?
- คาดการณ์ภาระหนี้ได้ง่าย: เพราะค่างวดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนจะเท่ากันตลอดอายุสัญญา ทำให้ผู้กู้สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายและแม่นยำ ไม่ต้องกังวลว่าค่างวดจะเปลี่ยนแปลงไปและต้องคำนวณใหม่อยู่เรื่อย ๆ
- เหมาะกับสินเชื่อระยะสั้น: เช่น สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลบางประเภท ซึ่งผู้กู้ไม่ต้องการความซับซ้อนในการคำนวณและต้องการความแน่นอนของค่างวด
- ไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยผันผวน: ผู้กู้จะทราบอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนตั้งแต่ต้นจนจบสัญญา ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่อาจส่งผลให้ค่างวดเพิ่มขึ้น
ข้อเสียของดอกเบี้ยคงที่ มีอะไรบ้าง?
- ไม่สามารถประหยัดดอกเบี้ยได้จากการโปะหนี้: เพราะดอกเบี้ยถูกคำนวณจากเงินต้นเต็มจำนวนตั้งแต่แรก ไม่ว่าคุณจะจ่ายค่างวดเพิ่มหรือโปะหนี้มากแค่ไหน จำนวนดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายก็ยังคงเท่าเดิม ทำให้ไม่มีโอกาสในการประหยัดจากอัตราดอกเบี้ยเลย
- หากเป็นสินเชื่อระยะยาว: ดอกเบี้ยรวมที่คุณต้องจ่ายอาจสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (ในกรณีที่มีการโปะหนี้)
- เงินต้นลดช้ากว่าในระยะยาว: เนื่องจากดอกเบี้ยถูกคิดจากเงินต้นทั้งหมดตั้งแต่ต้น แม้จะจ่ายค่างวดไปแล้ว แต่สัดส่วนของเงินที่ตัดเงินต้นจะไม่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกว่าเงินต้นลดลงช้ากว่าการกู้แบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอก
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก vs ดอกเบี้ยคงที่ เลือกอันไหนดี?
การเลือกระหว่างดอกเบี้ยลดต้นลดดอกและดอกเบี้ยคงที่ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อ วัตถุประสงค์ในการกู้ และความสามารถในการบริหารจัดการเงินของคุณ
สำหรับสินเชื่อบ้าน ซึ่งเป็นหนี้ระยะยาว การเลือกดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกมักเป็นตัวเลือกที่ได้เปรียบกว่าอย่างชัดเจน เพราะเปิดโอกาสให้คุณประหยัดดอกเบี้ยรวมได้มหาศาลหากมีการโปะหนี้หรือจ่ายเกินค่างวด สิ่งนี้จะช่วยให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้น และภาระดอกเบี้ยในแต่ละงวดก็จะลดตาม ทำให้คุณผ่อนบ้านหมดได้ไวขึ้น และจ่ายดอกเบี้ยรวมน้อยลงในท้ายที่สุด แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยบ้านอาจมีการปรับเปลี่ยนตามกลไกตลาดก็ตาม (ในกรณีที่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว) แต่ประโยชน์จากการลดเงินต้นได้อย่างแท้จริงนั้นคุ้มค่ากว่ามาก ๆ
ในทางกลับกัน สำหรับดอกเบี้ยแบบคงที่ แม้จะให้ความมั่นคงด้านค่างวดที่แน่นอนตลอดสัญญา ทำให้วางแผนการเงินได้ง่าย แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถประหยัดดอกเบี้ยได้จากการโปะหนี้ และโดยทั่วไปแล้วมักใช้กับสินเชื่อที่มีระยะเวลาสั้นกว่า เช่น สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลบางประเภท ซึ่งผู้กู้ต้องการความชัดเจนของค่างวดและไม่ได้มีเป้าหมายในการโปะหนี้เพื่อลดดอกเบี้ย
ดังนั้นก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกผ่อนแบบไหน? คุณควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- ประเภทสินเชื่อ สินเชื่อบ้านส่วนใหญ่มักเป็นแบบลดต้นลดดอก ซึ่งให้ประโยชน์มากกว่า
- เป้าหมายการชำระหนี้ หากต้องการผ่อนหมดเร็วและประหยัดดอกเบี้ย การเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก คือ คำตอบ
- ความสามารถในการโปะหนี้ หากในอนาคตคุณอาจมีศักยภาพในการจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้น การเลือกแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอกจะให้ความคุ้มค่ามากกว่า
- หากคุณต้องการค่างวดที่เท่ากันทุกเดือนตลอดสัญญาโดยไม่สนใจการประหยัดดอกเบี้ยมากนัก ดอกเบี้ยคงที่ก็อาจตอบโจทย์มากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาจากประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมด้วยนั่นเอง
สรุป
การทำความเข้าใจหลักการผ่อนบ้านแบบลดต้นลดดอก คือ หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการหนี้อย่างชาญฉลาด เพราะดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากเงินต้นคงเหลือ ทำให้คุณสามารถประหยัดดอกเบี้ยรวม ได้มหาศาลและปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น
เพียงแค่วางแผนและโปะหนี้ เมื่อมีเงินก้อน แม้จำเป็นจะต้องเข้มงวดในการจัดสรรเงิน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อบ้านในฝันของคุณและแผนการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งการเลือกประเภทดอกเบี้ยที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Frasers Property เล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการคุณภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุน เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างมั่นใจ พร้อมมีบริการแนะนำการวางแผนการเงินที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้การมีบ้านในฝันของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและจับต้องได้มากยิ่งขึ้น